เคทีบี (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อ แต่กรอบเคลื่อนไหวไม่กว้างนัก ปัจจัยต่างประเทศเริ่มส่งผลลบน้อยลง แนะเข้าลงทุนสั้น เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก หุ้นเด่น ROBINS, CENTEL, MC, CPF, LOXLEY, TTCL
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (22 พ.ย.) ตลาดหุ้นต่างประเทศ คืนที่ผ่านมา ได้อานิสงส์จากรัสเซีย-อิหร่าน-อิรัก ประกาศที่จะให้ความร่วมมือในการประชุมเพื่อควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันระหว่าง OEPC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ ช่วงสัปดาห์หน้า
ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น นักลงทุนเริ่มซึมซับต่อนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กันมาระดับหนึ่ง น้ำหนักต่อตลาดในวันที่ผ่านมา ต่างมองในทางบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจ และลดความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐลง ขณะที่การปรับดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมครั้งถัดไป 13-14 ธ.ค.นั้น มีสูงมาก Fed Fund Futures Probability เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 100% และโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2560 เป็น 0% คือ ตลาดมองว่า โอกาสที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยปีหน้าไม่มีอีกแล้ว เราจึงเห็นว่า การปรับดอกเบี้ยที่ไปพร้อมกับเศรษฐกิจที่จะมีการขยายตัว จะเป็นเรื่องที่เป็นบวกต่อสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ มากกว่า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นโลหะสูงขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น และหุ้นในสายสินค้าโภคภัณฑ์ในวันนี้ด้วย
ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าจับตาจะเป็นแรงส่งจากการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรายสัปดาห์ของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย (จ่ายเงิน 1,500-3,000 บาท/คน) และมาตรการชอปช่วยชาติ 2559 ที่มีข่าวตามสื่อเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) รวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตาม ซึ่งคาดกันว่า อาจนำเรื่องใดเรื่องหนึ่งเข้าพิจารณาในการประชุม ครม.ในวันนี้
ด้วยปัจจัยบวกในตลาดต่างประเทศที่มีน้ำหนักไปในทางบวก ขณะที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่น่าจะกระทบต่อตลาดโดยรวม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรับบาลสหรัฐฯ ที่เริ่มทรงตัว บวกกับแรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play ของไทย จึงคาดว่าดัชนีฯ มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อ แต่จะยังคงกรอบการเคลื่อนไหวที่ไม่กว้างนักจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่คาดจะยังมีต่อเนื่อง
“กลยุทธ์การลงทุนเราแนะนำจาก “ชะลอการลงทุน” เป็น “ถือ” เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตลาดน่าจะรับรู้ไปมากแล้ว จึงมีผลต่อตลาดในทางที่เป็นลบน้อยลง แต่จะยังเป็นปัจจัยสำคัญของตลาดอยู่ต่อไป การเข้าลงทุนช่วงนี้ยังต้องระมัดระวัง และเล่นในกรอบสั้นๆ เน้นหุ้นมีข่าวบวกไว้ก่อนสำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นเด่น ROBINS, CENTEL, MC, CPF, LOXLEY, TTCL มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,470-1,488 จุด”