อดีต ส.ส.ปชป. ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” ใช้อำนาจ ม.44 ช่วยผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ขายในจุดผ่อนผันได้เหมือนเดิม อ้างช่วยบริษัทยักษ์ต่างๆ ได้ทำไมไม่ช่วยคนหาเช้ากินค่ำ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (22 ธ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยได้ค้าขายในจุดผ่อนผันที่ถูกต้องตามกฎหมาย
นายวัชระกล่าวว่า สืบเนื่องจากการยกเลิกจุดผ่อนผันแบบแข็งกร้าวและฉับพลัน ที่กรุงเทพมหานครอ้างว่าเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ส่งผลทำให้ผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย จำนวน 20,000 แผง ถูกกวาดล้างในจุดผ่อนผันที่ถูกต้องตามกฎหมาย และถูกดูถูกเหยียดหยามในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยยังเข้าใจผิดว่า คสช.รังแกพวกเขาให้หมดอาชีพและที่ทำกินในพริบตาทั้ง 634 แห่ง ใน 50 เขต ทั้งๆ ที่มีใบอนุญาตให้สามารถจำหน่ายในจุดผ่อนผันได้ถึงเดือน ส.ค. 2560
“พล.อ.ประยุทธ์สามารถออกมาตรการช่วยเหลือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในโครงการชอปช่วยชาติได้ สามารถออกช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิตอล ให้แบ่งชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตคลื่นความถี่ต่อ กสทช.ได้ แล้วเหตุใดจึงไม่ยืดเวลาให้คนจนหาเช้ากินค่ำให้สามารถขายของในจุดผ่อนผันที่ถูกต้องตามกฎหมายออกไปก่อน หากจุดใดที่ กทม.จัดที่รองรับในการขายให้เพียงพอแล้วจึงค่อยโยกย้ายทีละจุด ไม่ใช่สั่งกวาดล้างหาบเร่ แผงลอยทั่วกรุงเทพฯ ไม่ให้มีที่ทำมาหากิน จนคนจนและครอบครัวต้องเดือดร้อนไปหมด และที่ผ่านมาผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ทุกคนพร้อมที่จะเสียภาษีให้รัฐบาล เพราะบางเขต เช่น เขตราชเทวี ก็จัดเก็บภาษีผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยอยู่แล้วปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 750 บาท รวมภาษีปีละ 1,500 บาท โดยผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยต้องไปกู้จากธนาคารออมสิน และสถาบันการเงินอื่นๆ ในโครงการ SME ของรัฐบาลชุดก่อนๆ”
นายวัชระกล่าวว่า ตนในฐานะอดีต ส.ส.จึงวิงวอนขอความเห็นใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้โปรดใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรืออำนาจอื่น เปิดโอกาสให้ผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยในจุดผ่อนผันทั่ว กทม.ได้จำหน่ายสินค้าเลี้ยงปากท้องและครอบครัวต่อไป เช่นเดียวกับที่รัฐบาลได้ช่วยนายทุนรายใหญ่ เจ้าของธุรกิจทีวีดิจิตอล หรือแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในการนำเข้าแป้งสาลีที่ต้องเสียภาษีกิโลกรัมละ 2 บาท ให้เหลือภาษี 0 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เลย แล้วทำไมรัฐบาล คสช.จะช่วยคนจนหาเช้ากินค่ำไม่ได้
