xs
xsm
sm
md
lg

ปัจจัยในประเทศยังหนุน SET โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้น ศก.ที่สำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


KTBST คาดภาวะ SET เป็นลบจากปัจจัยภายนอก นลท.ยังรอผลประชุม BOJ-FOMC ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังหนุน โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้น ศก.สำคัญที่จะทยอยออกมา พร้อมมองกรอบ 1,488-1,498 จุด

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า ยังมีแนวโน้มเป็นลบจากปัจจัยภายนอก โดยตลาดจะต้องรอดูทั้งผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะรู้ผลระหว่างการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (1 พ.ย.) และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะเริ่มประชุมวันนี้ และจะรู้ผลในเช้าวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ตามเวลาไทย แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากปัจจัยภายในอาจทำให้ดัชนีฯ เหมือนเมื่อวานนี้ คือ บวกได้อ่อนๆ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,488-1,498 จุด

สำหรับตลาดต่างประเทศในคืนที่ผ่านมา ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปในทางใด ตลาดหุ้นบวกลบกันเล็กน้อย ดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง รวมถึงยังมีเรื่อง FBI เข้าตรวจสอบ email ของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโรแครต ซึ่งเป็นลบต่อตลาดทั้งหมด เพราะอาจเปลี่ยนผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้ ดังนั้น ตลาดหุ้นในวันนี้น่าจะเป็นวันที่ตลาดจะต้องรอดูทั้งผลประชุม BOJ และ FOMC ก่อน

ตลาดสินทรัพย์ทางการเงินน่าจะซึมๆ ยกเว้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีทั้งฝั่งบวก ได้แก่ สังกะสี-ทองแดง ที่เก็งความต้องการใช้ที่มาจากจีน และฝั่งลบ คือ ราคาน้ำมันที่ผู้ผลิตน้ำมันยังตกลงกันไม่ได้เรื่องปริมาณการผลิต และมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะไหลลงไปหา 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือต่ำกว่า อีกครั้ง แม้ทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะระบุว่า ผู้ผลิตหลายรายสามารถตกลงในหลักการได้แล้ว แต่นักลงทุนอยากเห็นตัวเลขการผลิตที่จะลดลงมากกว่า จึงยังเป็นลบต่อราคาน้ำมันอยู่

ดังนั้น ปัจจัยภายนอกจึงเป็นลบ หรืออยู่ในสภาวะรอคอย มากกว่าที่จะบวก โดยผลลบที่มีมาถึงตลาดไทย คือ นักลงทุนต่างประเทศน่าจะยังขายหุ้นต่อ เพื่อปรับพอร์ตรับดอกเบี้ยสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ ที่น่าจะเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศที่จะช่วยพยุงตลาดได้ คือ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังบอกว่าดี เพราะได้ส่งออกช่วย อีกทั้งยังคาดว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้อาจเห็นมาตรการเศรษฐกิจออกมาอีก หลังสัปดาห์ก่อน มีเงินกองทุนหมู่บ้าน 1.8 หมื่นล้านบาท และมีข่าวว่าจะเข็นมาตรการช่วยราคาข้าวเข้ามาในเร็วๆ นี้ และที่อาจจะเป็นแรงกระตุ้นของตลาดหุ้นจะเป็นเรื่องการ เก็งงบการเงินไตรมาส 3/59 ที่จะทำให้หุ้นกลาง-เล็ก คึกคักขึ้นในตัวที่กำไรดี ซึ่งคงหนีไม่พ้นตัวที่กำไรดีในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังนั้น ทิศทางตลาดวันนี้ยังมีแนวโน้มเป็นลบจากปัจจัยภายนอก แต่แรงหนุนจากปัจจัยภายในอาจทำให้ดัชนีฯ เหมือนเมื่อวานนี้ คือ บวกได้อ่อนๆ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ด้วยปัจจัยภายนอก คือ นักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางใหญ่ถึง 3 แห่งในสัปดาห์นี้ และราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ รวมทั้งนักลงทุนต่างประเทศจะชะลอการลงทุน กลยุทธ์ ตอนนี้ คือ เลี่ยงหุ้นใหญ่ที่เสี่ยงต่อการขายของต่างชาติไว้ก่อน จับหุ้นที่เล่นเก็งงบ และหุ้นมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ และลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ หุ้นที่แนะนำ ได้แก่ BA BCH STEC GLOW และ JWD


กำลังโหลดความคิดเห็น