KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหว side-way ระวังแรงเทขายจากต่างชาติในหุ้นใหญ่ แนะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ ชี้การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ไม่ได้ลดโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ชูหุ้นเด่นเก็งกำไรระยะสั้น
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (18 ต.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาล กำลังสอดรับกับทิศทางดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ไม่ได้ลดโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.แต่อย่างใด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.1% ต่ำกว่าที่คาดที่ 0.2% (Bloomberg) ส่วนราคาทองคำ ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังอาจอยู่ในช่วงขาลงหากสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ดังนั้น สถานการณ์ของตลาดต่างประเทศจะเป็นเรื่องของแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ
“กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ จึงเป็นชะลอการลงทุนเพื่อรอดูข่าวใหม่ๆ หรือเข้าเก็งกำไรเพียงช่วงสั้นๆ ในหุ้นขนาดกลาง และเล็ก เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่มีความเสี่ยงต่อการถูกขายจากนักลงทุนต่างประเทศ หุ้นที่แนะนำได้แก่ IVL, BLA, GPSC, PLAT มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,467-1,490”
ขณะที่ตัวเลขการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเอเชียเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งของไทยที่มียิดขายสุทธิเป็นวันที่ 5 รวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท กำลังทำลายสถิติที่มีการซื้อต่อเนื่องมา 5 เดือนติดต่อกัน การขายหุ้นของนักลงทุนกลุ่มนี้ นอกจากจะเป็นเพราะทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นในเร็วๆ นี้แล้ว และราคาหุ้นของหลายประเทศปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่ง เมื่อมีการปรับพอร์ตลงทุน ก็จะสะเทือนมาถึงตลาดหุ้นเหล่านี้ด้วย ล่าสุด โบรกเกอร์ใหญ่ของสหรัฐฯ แห่งหนึ่งปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ลง และมีโบรกเกอร์ต่างประเทศบางแห่งเริ่มปรับลดคำแนะนำการลงทุนหุ้นไทยลงแล้ว
ส่วนทิศทางราคาน้ำมัน ทรงตัวใกล้ๆ ระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ตามข่าว และการเก็งกำไรในเรื่องการลดกำลังการผลิต และภาวะ oversupply ที่ยังมีอยู่ โดยการประชุม 30 พ.ย.นี้ โอกาสที่ OPEC และผู้ผลิตอื่นจะสามารถสรุปโควต้าผลิตมีได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยของตลาดหุ้นไทยเอง แนวโน้มกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารที่ไม่สดใส ราคาน้ำมันทรงๆ ตัว แรงซื้อของกองทุนฯ ที่ไล่ซื้อหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.) ลดระดับการซื้อลง และสำคัญที่สุด บางธนาคารกลางมีแนวโน้มลดการใช้ QE ลง จะส่งผลให้เม็ดเงินที่เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นก็จะลดลง เราจึงเห็นนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้น ซึ่งเป็นลบต่อตลาด ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบทรงตัว (side-way) เพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยมีโอกาสที่ดัชนีฯ จะปิดลดลงจากวันก่อน โดยตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวัน อาทิ ค่าเงินบาท ผลประชุม ครม.ว่าจะมีการอนุมัติเรื่องใดที่จะเกี่ยวกับตลาดหุ้นบ้างหรือไม่ และ Brexit ที่กลับมาพูดถึงกันมากขึ้นข้างนอกบ้าน ก็มีผลต่อ Fund Flow ด้วยเหมือนกัน