xs
xsm
sm
md
lg

“เจแอลแอล” คาด Q4 ปิดการขายที่ดินในซีบีดี 5 พันล. แจง 9 เดือนมูลค่างานซื้อขาย-เช่าผ่านมือ 16,000 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุพินท์ มีชูชีพ
ระบุตลาดบ้าน-คอนโดระดับบนใจกลางเมืองคึกคัก ดีมานด์ออฟฟิศเช่าเกรดเอซีบีดี ขยายตัวต่อเนื่อง ซัปพลายเข้าตลาดน้อย เจแอลแอล แจงปี 59 ลูกค้าซื้อ-ขาย-เช่าผ่านเพิ่มขึ้น ทั้งแปลงใหญ่-เล็ก ดันยอดซื้อ-ขายผ่านมือ 9 เดือนกระฉูดแตะ 16,000 ล้านบาท เพิ่มเท่าตัวเมื่อเทียบปีก่อนหน้า แย้มไตรมาส 4 จ่อปิดดีลขายที่ดินแปลงใหญ่กลางซีบีดี มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท คาดปี 60 ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลงใหญ่ในซีบีดี และที่ดินสำหรับโรงงาน 3-4 แปลง


นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ โจนส์ แลง ลาซาลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เจแอลแอล กล่าวว่า ปีนี้ลูกค้าซึ่งประกอบด้วยเจ้าของ นักลงทุน และผู้ใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ เข้าใช้บริการกลุ่มธุรกิจหลักๆ อย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นการเป็นตัวแทนซื้อ-ขาย-ให้เช่าอาคาร และที่ดิน บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ บริการบริหารโครงการ และบริการด้านที่ปรึกษา ซึ่งบริการที่ปรึกษา งานวิจัย และการประเมินราคาอสังหาฯ 

โดยกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับเจแอลแอล เพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ คือ บริการตัวแทนซื้อขาย-ให้เช่าที่ดิน และอาคารเพื่อการลงทุน โดยในช่วงสามไตรมาส 2 เจแอลแอล เป็นตัวแทนลูกค้าในการซื้อขาย-ให้เช่าที่ดิน และอาคารเพื่อการลงทุนไปแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท

“ช่วงที่ผ่านมา ธุรกรรมการลงทุนที่เจแอลแอล เป็นตัวแทนในการซื้อขาย-ให้เช่า ส่วนใหญ่เป็นการขายอาคาร ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือโกดังสินค้า แต่ในปีนี้การเป็นตัวแทนซื้อ-ขาย-ให้เช่าที่ดินมีสัดส่วนปรับเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า เนื่องจากได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนซื้อขาย-ให้เช่าที่ดินเพิ่มมากขึ้น ธุรกรรมการลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุดที่เจแอลแอล เป็นตัวแทนในปีนี้ คือ การปล่อยเช่าที่ดินขนาด 6 ไร่ บนถนนสีลม ด้วยอายุสัญญาเช่า 50 ปี ให้กับบริษัทนายณ์ เอสเตท จำกัด และบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกาศการร่วมลงทุนเพื่อสร้างอาคารสำนักงาน”

นางสุพินท์ กล่าวว่า บริการตัวแทนปล่อยเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน เป็นอีกธุรกิจที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ โดยคาดว่ายอดรวมการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานทั้งปีนี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ มากกว่า 100,000 ตารางเมตร แต่อย่างไรก็ตาม เจแอลแอล มั่นใจว่า รายได้ในกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 15-20% เนื่องจากธุรกรรมการเช่าส่วนใหญ่เป็นการเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเกรดเอ ซึ่งมีค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้น

“ธุรกรรมการเช่ารายการใหญ่ในปีนี้ คือ การเป็นตัวแทนบริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เช่าพื้นที่สำนักงาน 15,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ที่อาคารจีทาวเวอร์”

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 ของปีนี้บริษัท คาดว่า จะสามารถปิดการขายที่ดินแปลงใหญ่ในย่านซีบีดี ซึ่งมีมูลค่าซื้อขายกว่า 5,000 ล้านบาท โดยที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ระหว่างการเปิดให้เอกชน และนักลงทุนเสนอราคาแข่งเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ในปี 60 ที่จะถึงนี้จะเปิดประมูลที่ดินอีก 2 แปลงใหญ่ในย่านซีบีดี ของ กทม. และยังมีที่ดินเพื่อสร้างโรงงานอีก 3-4 แปลงที่จะเปิดประมูลในปีหน้าด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจบริการตัวแทนซื้อขาย-ให้เช่าจะขยายตัวขึ้นมาก แต่ธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาฯ ยังเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลัก โดยปัจจุบัน เจแอลแอล มีพื้นที่ อาคาร และอสังหาฯ ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 5 ล้าน ตร.ม. คิดเป็น 60% ของรายได้รายรวม

“ธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขาย-ให้เช่า แม้จะให้ผลกำไรสูง แต่มีความไม่แน่นอนสูง ต่างกับธุรกิจบริหารจัดการอสังหาฯ เพราะเจ้าของ หรือสถานประกอบการจำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือขาลง ดังนั้น บริษัทจึงพยายามรักษาสัดส่วนรายได้ในกลุ่ธุรกิจบริการจัดการให้เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ตลาดซื้อขายชะงักงัน”

ทั้งนี้ 5 ปีข้างหน้า เจแอลแอล ตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี โดยอาศัยกลยุทธ์หลักๆ อาทิ การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมต่อเนื่อง เช่น การนำระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ เข้ามาใช้ในการให้บริการที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น การพัฒนาบุคลากร รวมถึงการเข้าซื้อกิจการของบริษัทอื่น เพื่อขยายฐานลูกค้า และให้บริการได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยในปีนี้ เจแอลแอล ได้เข้าควบรวมกิจการของบริษัทพีดีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน และออกแบบตกแต่ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการบริหารโครงการก่อสร้าง-ออกแบบตกแต่งที่มีอยู่เดิมแล้ว 1 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น