“เอพี” ปรับแผนธุรกิจแนวราบหันรุกตลาดกลาง-บน ระบุกำลังซื้อสูง ซัปพลายในตลาดน้อยโอกาสเติบโตสูง ล่าสุด เปิดขาย “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” เคาะราคา 25-36 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีทำยอดขาย-รายได้ตามเป้าหลัง 8 เดือนครึ่ง กวาดยอดขาย 9,740 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 6,400 ล้านบาท ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีบริษัทมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 3,840 ล้านบาท และโครงการบ้านหรู-บ้านแฝดอีก 1 โครงการ มูลค่า 2,560 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ระดับลักชัวรี่ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” ตั้งอยู่บนถนนสุคนธสวัสดิ์ 19 ขนาดที่ดิน 32.3 ไร่ จำนวน 156 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,560 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส เฟสแรกพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 346-454 ตารางเมตร จำนวน 56 ยูนิต ราคาขาย 25-36 ล้านบาท และเฟสที่ 2 พัฒนาเป็นบ้านแฝด จำนวน 100 ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายช่วงต้นปี 2560
ทั้งนี้ บริษัทได้มองเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาโครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ จากความต้องการที่อยู่อาศัยระดับบนราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ในเมืองมีปริมาณความต้องการ (ดีมานด์) อยู่ในระดับสูงมาก ในขณะที่มีจำนวนโครงการแนวราบระดับบนที่ตั้งอยู่ในทำเลกลางเมืองมีเพียง 3-4 โครงการเท่านั้น ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้ ยังไม่มีความเสี่ยงจากการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบัน โครงการแนวราบของบริษัทไม่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ ดังนั้น การพัฒนาโครงการแนวราบของบริษัทหลังจากนี้จะเน้นไปที่โครงการในระดับกลาง-บน ราคาขายโครงการทาวน์เฮาส์ ตั้งแต่ 2-6 ล้านบาท และราคาขายของโครงการบ้านเดี่ยว ตั้งแต่ 6-12 บาทขึ้นไป
นายภมร กล่าวต่อว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ช่วยให้คนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ที่จะช่วยกระตุ้นการซื้อบ้านในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี ประกอบกับผู้ประกอบการต่างเร่งเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคัก ลูกค้าที่สนใจ และมองหาโครงการที่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยมีตัวเลือกมากขึ้น และมีการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น
สำหรับยอดขายโครงการแนวราบถึงวันที่ 15 กันยายน 59 มีจำนวน 9,740 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางเอาไว้ 14,500 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ จากการเปิดขายโครงการใหม่ 6 โครงการ และยังมีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 50 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 21,000 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดขายโครงการแนวราบรอรับรู้รายได้ ณ ปัจจุบัน จำนวน 5,685 ล้านบาท โดยจะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด โดยช่วง 6 เดือนแรกบริษัทมียอดรับรู้รายได้ จำนวน 6,148 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางเอาไว้ 13,800 ล้านบาท
ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการแนวราบไปแล้ว จำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,550 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 4,010 ล้านบาท และทาวน์โฮม 4 โครงการ มูลค่า 2,540 ล้านบาท และบริษัทมั่นใจว่า ยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 31,000 ล้านบาท โดยยอดขายรวมถึงวันที่ 15 ก.ย.59 บริษัททำได้แล้ว 18,700 ล้านบาท.