“เอสซีจี โฮมโซลูชั่น” ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาทพัฒนาการให้บริการรูปแบบ “VIP Approach ดูแลบ้านของลูกค้าเสมือนบ้านของเรา” เดินหน้าส่งทีมผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจีเข้าประจำที่ เอสซีจี โฮมโซลูชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ ให้คำปรึกษาทั้งแก่เจ้าของบ้าน และช่าง พร้อมเชิญชวนเจ้าของบ้านนำแบบบ้านพิมพ์เขียวมารับบริการที่ร้านฟรี ทั้งการให้คำปรึกษา การขึ้นแบบ 3 มิติ และการประมาณราคาวัสดุก่อสร้าง เผยสิ้นปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวม 9,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% พร้อมตั้งเป้าขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 47 แห่งในปี 2560
นายมานิตย์ บุญประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก เครือข่ายผู้แทนจำหน่าย บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดีมีคุณภาพให้แก่คนไทย “เอสซีจี โฮมโซลูชั่น” ในฐานะศูนย์บริการ และจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจร ในปีนี้ได้มุ่งสร้างความแตกต่างในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย โดยได้พัฒนากลยุทธ์ “VIP Approach ดูแลบ้านของลูกค้าเสมือนบ้านของเรา” ซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการที่สร้างความประทับใจขั้นสูงสุด ภายใต้สโลแกน “เริ่มที่นี่...NO WORRY เรื่องบ้าน” นำเสนอสินค้าแบบเป็นระบบ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และความต้องการที่แตกต่างด้านที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค มอบความสะดวกสบายด้วยบริการแบบครบวงจร และมีคุณภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจี
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมของเจ้าของบ้านในกลุ่มบ้านเดี่ยวสร้างเองที่เป็นลูกค้าของเอสซีจี โฮมโซลูชั่น จำนวน 1,700 หลังทั่วประเทศ พบว่าเจ้าของบ้านกว่า 70% มีข้อตกลงการสร้างบ้านแบบจ้างช่างเบ็ดเสร็จ คือ ให้ช่างเหมาทั้งค่าแรง และค่าวัสดุ อย่างไรก็ดี เจ้าของบ้าน และช่างต่างมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าร่วมกัน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าลูกค้าต้องการช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีบริการครบวงจร มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนส่งมอบบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้งบประมาณที่ไม่บานปลาย ดังนั้น เอสซีจี โฮมโซลูชั่น จึงพัฒนากลยุทธ์การให้บริการแบบ “VIP Approach ดูแลบ้านของลูกค้าเสมือนบ้านของเรา” ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งเจ้าของบ้าน และช่างได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีระบบสนับสนุนการให้บริการ ดังนี้
ซอฟต์แวร์ (Software) นำนวัตกรรมโปรแกรมการออกแบบเสมือนจริงมาพัฒนาต่อยอดในลิขสิทธิ์เฉพาะของเอสซีจี โดยนวัตกรรมโปรแกรมนี้สามารถเปลี่ยนแบบบ้านของลูกค้าจาก 2 มิติ เป็นแบบบ้าน 3 มิติ พร้อมกับประมาณจำนวนวัสดุ และทำ Bill of quantities (BOQ) อัตโนมัติ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ ไม่เกิดปัญหางบประมาณบานปลาย บ้านหลังที่เร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 15-20 นาที
พีเพิลแวร์ (Peopleware) ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละโซลูชันที่ผ่านการอบรม และพัฒนาอย่างเข้มข้นใน 4 ด้าน ได้แก่ Service Excellence (มาตรฐานการบริการแบบเหนือระดับ) Knowledge (ความรู้สินค้า และการก่อสร้างที่เป็นความรู้เฉพาะในแต่ละ Solution ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของบ้าน) Design (เทคนิคด้านการออกแบบ เพื่อให้ลูกค้าได้ที่อยู่อาศัยที่ตรงกับไลฟ์สไตล์) และ Brand (ความรู้ด้านแบรนด์) เข้าประจำในทุกสาขาทั่วประเทศเพื่อให้บริการทั้งให้คำปรึกษา การขึ้นแบบ 3 มิติ และการประมาณราคาวัสดุก่อสร้าง ฟรี
โซลูชัน (Solution) เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมสินค้าที่เป็นระบบ ครอบคลุม 9 องค์ประกอบของบ้าน ได้แก่ โซลูชันโครงสร้าง หลังคา ฝ้าเพดาน ผนัง ภูมิทัศน์ภายนอก วัสดุปูพื้นผนัง ประตูและหน้าต่าง ห้องน้ำ และห้องครัว เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงการออกแบบ และรูปแบบการใช้งานจริงในส่วนต่างๆ ของบ้าน พร้อมมีการจัดวางนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่หลากหลาย ดีไซน์การจัดร้านตาม Customer Journey อีกทั้งยังตอบเทรนด์ของลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
นายมานิตย์ กล่าวต่อไปว่า “จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค และการพัฒนากลยุทธ์รูปแบบการบริการกว่า 2 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เอสซีจี โฮมโซลูชั่น เป็นรายแรกในไทยที่ได้นำเสนอกลยุทธ์การให้บริการในรูปแบบ VIP Approach ที่มอบโซลูชัน และบริการที่มีคุณภาพ และครบวงจรที่สุดให้กับกลุ่มเจ้าของบ้าน และกลุ่มช่าง ด้วยบริการที่สะดวก ครบวงจร เพียงนำแบบบ้านพิมพ์เขียวมารับบริการที่เอสซีจี โฮมโซลูชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่เต็มใจพร้อมให้บริการ ตั้งแต่วิเคราะห์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ให้คำปรึกษา ออกแบบ เลือกสรรวัสดุ ประมาณราคา ตลอดจนดูแลการติดตั้ง และรับประกันคุณภาพสูงสุด 10 ปี โดยเรามุ่งหวังให้เอสซีจี โฮมโซลูชั่น เป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจลูกค้ากลุ่มบ้านสร้างเองมากที่สุด ดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านที่เสร็จสมบูรณ์ไร้ปัญหากวนใจ ตอบแนวคิดของเราที่ว่า เริ่มที่นี่...NO WORRY เรื่องบ้าน”
สำหรับแนวทางในการสร้างการรับรู้ถึงกลยุทธ์การให้บริการในครั้งนี้จะมุ่งสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มเจ้าของบ้าน และกลุ่มช่างรับเหมา โดยเน้นสื่อสารถึงจุดเด่นในการเป็นนวัตกรรมร้านค้าวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่ ที่มีสินค้า และบริการที่ครบวงจร มีคุณภาพ และมั่นใจได้ในมาตรฐานบริการ เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของบ้าน และช่างนำแบบบ้านพิมพ์เขียวมารับบริการที่ร้านมากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2559 ยังเตรียมมอบประสบการณ์เสมือนจริง และสร้างความประทับใจในบริการขั้นสูงสุดที่บูทเอสซีจี ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2016 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “เริ่มที่นี่...NO WORRY เรื่องบ้าน” โดยจะจำลองศูนย์บริการ และจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจรมาให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ตรงอย่างใกล้ชิด พร้อมมีบริการให้คำปรึกษาฟรี โดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่มาตอบทุกคำถามเรื่องบ้าน ภายในงานยังมีกิจกรรมไฮไลต์มากมาย อาทิ การเปิดตัวแคมเปญโปรโมชัน “SCG Family Festival ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ลุ้นเที่ยวฟรี” การแจกแบบบ้าน My Home My Style มอบสิทธิพิเศษซื้อ SCG Voucher ภายในงาน นอกจากนี้ ยังขนนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างจากเอสซีจี พร้อมโปรโมชัน และสิทธิพิเศษมานำเสนออีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมบูธเอสซีจี ที่งานบ้านและสวนแฟร์ 2016 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม -6 พฤศจิกายน 2559 ตั้งแต่เวลา 09.30-21.00 น.
“บริษัทฯ พบว่า กลยุทธ์การให้บริการแบบ VIP Approach ที่เข้าถึงกลุ่มเจ้าของบ้าน และช่าง และการทำงานร่วมกับลูกค้า ในลักษณะของการเป็นเพื่อนคู่คิด นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าได้สร้างบ้านเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว ไร้ปัญหากวนใจ ยังช่วยผลักดันยอดขายเติบโตตามเป้า อีกทั้งการให้บริการในแบบครบวงจรทั้งซอฟต์แวร์ พีเพิลแวร์ และโซลูชัน ยังทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการให้บริการ จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา ลูกค้าบ้านสร้างเองจะให้ความเชื่อมั่นกับร้านโดยจับมือกับช่าง หรือผู้รับเหมาเข้ามารับบริการจากเอสซีจี โฮมโซลูชั่น มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ในปี 2559 เราตั้งเป้ายอดขาย 9,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 42 สาขา และเพิ่มเป็น 47 สาขาภายในปี 60”