ส.ธุรกิจรับสร้างบ้าน ยัน ศก.ซบไม่กระทบกำลังซื้อ-ดีมานด์ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง เหตุเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ เผยปัจจัยบวกภาครัฐกระตุ้นการลงทุนต่อเนื่อง สถานะการณ์ภัยแล้งคลี่คล้ายดันราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดี ลูกค้ามีงบ และความพร้อม ชี้ผลสำรวจความต้องการปลูกสร้างบ้านเองพบกว่า 55% จากฐานลูกค้า 4,000 ราย พร้อมตัดสินใจปลูกบ้านในปีนี้ แจงครึ่งปีมียอดขายแล้วกว่า 4,800 ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 12,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจัดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน “Home Builder Expo 2016: Get more” วางเป้ายอดขายทั้งในงาน และหลังงาน 3,200 ล้านบาท
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ว่า ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 2 ไตรมาสแรกซบเซาตามไปด้วย แต่ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านนั้น ถือว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นยังไม่มาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าตลาดรับสร้างบ้านเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่แท้จริง และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และมีความพร้อม เนื่องจากมีที่ดินเป็นของตนเอง และมีความพร้อมด้านการเงินอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จาการเก็บข้อมูลตัวเลขความต้องการสร้างที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าในงาน โฮมบิวท์เดอร์โฟกัส ซึ่งจัดขึ้นในครั้งที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขการสำรวจความต้องการสร้างบ้านของลูกค้าจากกลุ่มผู้เข้าชมงานกว่า 4,000 ราย มีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมตัดสินใจสร้างบ้านทันที 9.75% และมีลูกค้าที่กลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะสร้างบ้านภายใน 3 เดือน 11.8% กลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะสร้างบ้านในระยะ 6 เดือน 12.34% และลูกค้าที่มีความพร้อมจะสร้างบ้านภายใน 1 ปี 22.41% นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อมจะสร้างบ้านในระยะเวลา 1 ปีขึ้นไปอีก 32.23%
จากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ มีดีมานด์จะสร้างบ้านของตัวเองรออยู่กว่า 55% หรือประมาณ 2,000 กว่าราย พร้อมที่จะตัดสินใจก่อสร้างบ้านในปีนี้ จากตัวเลขดีมานด์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยเศรษฐกิจซบเซาที่เกิดขึ้นในปีนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้าตลาดรับสร้างบ้านมากนัก เนื่องจากในปัจจุบัน ตลาดยังมีปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ
โดยปัจจัยบวกหลัก คือ การเร่งผลักดันการลงทุนจากภาครัฐ ขณะที่สถานะการณ์ภัยแล้งเริ่มมีสัญญาณ และทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น ระดับราคาขายปลีกน้ำมันมีทิศทางที่ลดลงส่งผลดีต่อราคาวัสดุก่อสร้างให่ทรงตัว และยังไม่มีแนวโน้มจะปรับราคาขาย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงการออกมาตรการผลักดันการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และโครงการก่อสร้างระบบคมนาคม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
“ปีนี้ สมาคมฯ ประมาณการตลาดรวมว่า จะมียอดขายรวม 12,000 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือน มีประมาณการยอดขายได้แล้ว 40% ของเป้าประมาณการ หรือกว่า 4,800 ล้านบาท และจากข้อมูลที่มีการสำรวจไว้ทำให้สมาคมฯ เชื่อมั่นว่า ตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งปีจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ประมาณการไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ประกอบกับในไตรมาส 3 นี้สมาคมฯ จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้าย คือ มหกรรมรับสร้างบ้าน Home Builder Expo 2016 Get more ในวันที่ 18-21 ส.ค. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าตัดสินใจจองปลูกสร้างบ้านทั้งในงาน และหลังงาน 3,200 ล้านบาท”
สำหรับงานดังกล่าวจะมีการออกบูทของสมาชิกสมาคมฯ และผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาจัดแสดงในงาน เช่น นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ จาก SCG และบริษัทออกแบบ และตกแต่งภายใน รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และสถาบันการเงิน ร่วมออกบูท พร้อมจัดโปรโมชัน และกิจกรรมอีกมากมาย
ทั้งนี้ การจัดงานในปีนี้มีความพิเศษที่การเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่รับผิดชอบในการพัฒนาโครงการที่อยู่สำหรับผู้มีรายได้น้อย และยากจน ได้นำแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศในการประกวดออกแบบบ้านผู้สูงอายุ จำนวน 6 รางวัล เข้าร่วมออกบูทแสดงงานในด้วย