“ซีคอนโฮม” มองตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังดี เหตุการเมืองชัดเจน งบลงทุนภาครัฐ ฤดูการขายบ้าน เผยผลประกอบการ 7 เดือน เกินเป้าทำได้ 605 ล้านบาท กลุ่มบ้านขนาดเล็กมาแรง เรียลดีมานด์ ส่วนบ้านขนาดใหญ่ชะลอตามเศรษฐกิจบ้าง ลั่นทั้งปีได้แน่ 1,200 ล้านบาท พร้อมนำเสนอโซลูชันในแบบ “Home Building Innovative Complete Solution” เพื่อเสนอเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า ดันซีรีส์แบบบ้านใหม่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังว่า จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นฤดูการขายบ้าน รวมถึงทิศทางการเมืองมีความชัดเจน รัฐบาลมีการนำงบประมาณมาลงทุน การลงทุนระบบสาธารณูปโภคเริ่มขยับ ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อ แต่ก็ต้องเฝ้าติดตามเศรษฐกิจภายนอกประเทศที่ยังชะลอตัว และอาจจะไม่เป็นผลดีต่อภาคการส่งออกบ้าง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็ยอมรับว่าความไม่ชัดเจนทางการเมือง และเศรษฐกิจ ได้ส่งผลการแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านดุเดือด ทำให้บริษัทต้องปรับตัวตามสถานการณ์ โดยถอยตัวออกมา ไม่เล่นสงครามราคา เน้นสร้างความแตกต่าง ปรับปรุง และดูแลลูกค้า จัดระเบียนบ้านให้พร้อม
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทซีคอนโฮมฯ สร้างยอดจองได้ 605 ล้านบาท รวม 120 หลัง เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มียอดจอง 520 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านซีคอน โฮม 27 หลัง รวม 282 ล้านบาท บ้านคอมแพก โฮม และบัดเจ็ตโฮม รวม 93 หลัง รวม 323 ล้านบาท โดยโซนที่มียอดขายดี คือ สาขาศรีนครินทร์ เป็นต้น
“บ้านขนาดใหญ่ซีคอนที่ลดลง เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ที่อาจจะชะลอลงบ้าง แต่ลูกค้าในกลุ่มบ้านขนาดเล็กยังเติบโต กลุ่มนี้ยังไม่ตก และเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน แต่หากในอนาคตเศรษฐกิจดี สัดส่วนบ้านขนาดใหญ่ก็จะปรับขึ้นมา”
กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดครึ่งหลังว่า ทางกลุ่มซีคอนโฮม ได้พัฒนากลยุทธ์เพื่อรองรับตลาดอนาคต โดยนำเสนอโซลูชันในแบบ “Home Building Innovative Complete Solution” เพื่อเสนอเป็นทางเลือกใหม่ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ภายใต้ชื่อกลุ่มโซลูชันของบ้าน “Seacon Home Care”
ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดในช่วงที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มลูกค้ายุคปัจจุบันมีความต้องการบ้านที่ชัดเจนด้านฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าในอดีต และที่สำคัญ คือ ต้องการบ้านที่สามารถตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะกลุ่มเพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า แบบบ้าน 3 อันดับแรกที่ลูกค้ายุคปัจจุบันต้องการ ได้แก่ แบบบ้านประหยัดพลังงาน และสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงได้, แบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รวมไปถึงแบบบ้านที่รองรับฟังก์ชันทางธุรกิจควบคู่กับการอยู่อาศัย ดังนั้น กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม จึงได้ยึดแนวทางดังกล่าวเพื่อนำมาพัฒนาแบบบ้านที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้า
ล่าสุด ได้เปิดตัว “บ้านแทนคุณ” มีให้เลือก 2 แบบ ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งหลายฝ่ายต่างเห็นสอดคล้องว่า กลุ่มดังกล่าวจะเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ในอนาคตของธุรกิจรับสร้างบ้านในประเทศไทย เพราะจากข้อมูลของ The ASEAN Secretariat, 2015 และ United Nations, 2015 ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 15.80% ซึ่งตามหลักขององค์การสหประชาชาติ ถือว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) แล้ว
“สำหรับซีคอนโฮม เราขอนำเสนอบ้านแทนคุณออกสู่ตลาด ซึ่งเราได้พัฒนาแบบบ้านตามหลัก Universal Design เรียบง่าย มีสไตล์ คำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาทางด้านร่างกาย โดยได้นำวัสดุในกลุ่ม SCG Elder Care Solution เข้ามาใช้ทั้งหมด เพื่อตอบความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ คอมแพก โฮม ก็ได้พัฒนาแบบบ้านที่ชูจุดขายด้านโซลูชันเช่นเดียวกัน ภายใต้กลุ่ม “บ้านตระกูลรัก” โดยเบื้องต้น จะพัฒนาออกสู่ตลาดรวม 6 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับที่บัดเจ็ตโฮม ได้เปิดตัว “บ้านคุ้มค่า” รวม 5 แบบเล็กๆ ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท เน้นฟังก์ชันที่ครบครันในราคาสุดคุ้ม ซึ่งทุกๆ แบบที่เรานำเสนอนั้น มาจากการสำรวจความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบันทั้งสิ้น”
โดยกลุ่มโซลูชันแบบบ้าน Seacon Home Care จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกภายในงานมหกรรมรับสร้างบ้าน Home Builder Expo 2016 วันที่ 18-21 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงาน ซีคอนโฮม ได้จัดโปรโมชันพิเศษประจำปี ด้วยราคาบ้านเริ่มต้นเพียง 11,000 บาทต่อตารางเมตร เท่านั้น คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 200 ล้านบาท และจนถึงสิ้นปีจะมียอดขายตามหลังอีก 150 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 350 ล้านบาท เพื่อให้รายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 1,200 ล้านบาท หรือมากกว่าเป้าจากปี 2558 มีรายได้ที่ 1,100 ล้านบาท แยกเป็นบ้านซีคอนโฮม 550 ล้านบาท บ้านคอมแพก โฮม และบัดเจ็ตโฮม รวม 650 ล้านบาท รวมทั้งปี 210 หลัง คาดทั้งปีสัดส่วนบ้านขนาดใหญ่จะอยู่ที่ 45% และบ้านขนาดเล็ก 55% โดยลูกค้าหลักจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และรอบๆ 80% และต่างจังหวัด 20%.
