QH เผยผลประกอบการโตต่อเนื่อง แจงรายได้ไตรมาส 2 กว่า 5,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 971 ล้านบาท หรือโต 23% จากปีก่อน ขณะที่รายได้รวมงวด 6 เดือน 10,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,217 ล้านบาท คิดเป็น 26%
นางสาวอภิญญา จารุตระกูลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH กล่าวว่า ในไตรมาส 2/59 บริษัท และบริษัทย่อยมีผลกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 221 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33% และมียอดกำไรสะสม 6 เดือน ณ 30 มิ.ย.59 จำนวน 406 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33% โดยมีรายได้รวมในไตรมาส 2/59 จำนวน 5,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดสะสม 6 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 59 จำนวน 10,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,217 ล้านบาท คิดเป็น 26%
ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการขายอสังหาริมทรัพย์ 971 ล้านบาท คิดเป็น 23% และรายได้รวมของงวด 6 เดือน 2,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% โดยเป็นรายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดิน 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ยอดรายได้สะสม 6 เดือนของปีนี้ เพิ่มขึ้น 1,177 ล้านบาท คิดเป็น 18% ขณะที่รายได้จากการขายคอนโดในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 420 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51% และยอดรายได้สะสม 6 เดือน เพิ่มขึ้น 1,056 ล้านบาท คิดเป็น 87% ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในการลดค่าธรรมเนียมโอน และจำนองที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.58 ถึง 28 เม.ย.59 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 59 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการเปิดขายโครงการบ้านใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,271 ล้านบาท และปิดโครงการบ้าน 3 โครงการ และปิดโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากค่าเช่า และค่าบริการของไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% และยอดสะสม 6 เดือนของปี 59 เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท หรือ 3% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
“ไตรมาสนี้บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจขายอสังหาฯ เพิ่มขึ้น 222 ล้านบาท กำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่าเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 20 ล้านบาท ในขณะที่รายได้อื่นลดลง 35 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท และภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 32 ล้านบาท”