“เพอร์เฟค” เผยงวดครึ่งปีกวาดรายได้เพิ่มเป็นกว่า 7,400 ล้านบาท ขณะที่ทำกำไรสุทธิได้ 346 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 2 ขาดทุนสุทธิ 21.6 ล้านบาท โดยสามารถทำรายได้จากการขาย 2,512.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 เป็นผลจากการรับรู้รายได้จาก 3 โครงการใหม่ โชว์อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจากร้อยละ 32.7 เป็นร้อยละ 36
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวชี้แจงว่า ในงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 346 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเท่ากับ 520 ล้านบาท โดยในงวดครึ่งปี รวมรายได้ 7,401.282 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันที่ 5,544.256 ล้านบาท โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีรายได้จากการขาย จำนวน 5,728.62 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันที่ทำได้ 4,189.94 ล้านบาท จากรายได้ขายบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 3,289.18 ล้านบาท รายได้จากการขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัย 2,439.43 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม มีรายได้ 1,212.546 ล้านบาท มีรายได้ค่าเช่า และบริการ 177 ล้านบาท และมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 82.4 ล้านบาท
สำหรับงวดไตรมาส 2 ปี 59 บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 21.6 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 58 มีกำไรสุทธิ จำนวน 422.7 ล้านบาท ลดลง จำนวน 444.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 105.1 อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของไตรมาส 2 ปี 58 ส่วนหนึ่งมาจากกำไรจากการซื้อในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จำนวน 505.7 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯ และบริษัทย่อยจะขาดทุนสุทธิ จำนวน 83 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2 ปี 59 ขาดทุนลดลง จำนวน 61.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 74 ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า
ไตรมาส 2 ปี 59 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีรายได้จากการขาย จำนวน 2,512.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 247.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับจำนวน 2,265.7 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปี 58 จากรายได้ขายบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 1,675.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 45.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.8 รายได้จากการขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัย 837.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 213.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.2 โดยเป็นโครงการต่อเนื่อง 9 โครงการ และมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ และมีรายได้จากการขายที่ดินลดลงจำนวน 11.8 ล้านบาท
กำไรขั้นต้น จำนวน 904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.2 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 32.7 เป็นร้อยละ 36 โดยเป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของบ้านพร้อมที่ดินเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 31.6 เป็นร้อยละ 36.1 อัตรากำไรขั้นต้นของอาคารชุดพักอาศัยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.2 เป็นร้อยละ 35.7
ธุรกิจโรงแรม แยกเป็นโรงแรมในต่างประเทศมีรายได้จากกาประกอบกิจการโรงแรม จำนวน 115.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 11.5 ล้านบาท ขาดทุนขั้นต้น จำนวน 36.5 ล้านบาท ขาดทุนขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 16.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85.4
โรงแรมในประเทศ มีรายได้จากกาประกอบกิจการโรงแรม จำนวน 229.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 153.5 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 60.6 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 40.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 204.5
รายได้ค่าเช่า และบริการ จำนวน 88.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 47.9 ล้านบาท กำไรขั้นต้น จำนวน 0.8 ล้านบาท กำไรขั้นต้นลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 3.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 81.2
ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร จำนวน 861.7 ล้านบาท ลดลง 16.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2 เป็นต้น.