เดนทัล คอร์ปอเรชั่น ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนครั้งแรก 50 ล้านหุ้นนี้ ระดมทุนเพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 50 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.เอเชีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทมีวัตถุประสงค์ใช้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน
โดย บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น ให้บริการด้านทันตกรรม คลินิกทันตกรรม โดยกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี และวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย ให้บริการทางทันตกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการรักษาในระดับสากล และมุ่งเน้นการเอาใจใส่ต่อผู้เข้ารับบริการ ในรูปแบบศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรม ภายใต้แบรนด์ “BIDC” “Dental Signature” และ “Smile Signature” ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทมีทั้งหมด 12 สาขา เป็นศูนย์ทันตกรรมจำนวน 2 สาขา และคลินิกทันตกรรม จำนวน 10 สาขา
โครงการในอนาคต บริษัทฯ ยังไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะดำเนินการในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ มีเพียงการขยายสาขา และดำเนินการ เพื่อพัฒนาการให้บริการของสาขาที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทต้องการมุ่งเน้นพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการให้เป็นศูนย์ทันตกรรม หรือคลินิกทันตกรรมที่เทียบเท่าระดับสากลให้มากขึ้น และมีการให้บริการการรักษาเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัทให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในการขยายสาขานั้น บริษัทฯ จะต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น ทำเลที่ตั้ง ค่าเช่าสถานที่ อยู่ในโซนที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากน้อยเพียงใด ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้แผนการขยายสาขาเปลี่ยนแปลงได้ บริษัทจะพิจารณาเพื่อประโยชน์สูงสุดของกิจการเป็นหลัก ส่วนโครงการโรงพยาบาลทันตกรรมภายใต้ BIDH นั้น ณ ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ แต่วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งก็เพื่อรองรับโครงการในอนาคตที่อาจจะจัดตั้งเป็นโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่รับคนไข้ค้างคืนที่ให้บริการด้านทันตกรรมโดยเฉพาะ
สำหรับผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา รายได้รวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในปี 56-58 เท่ากับ 310.42 ล้านบาท, 408.26 ล้านบาท และ 420.29 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 31.52% ในปี 57 และ 2.94% ในปี 58 ส่วนกำไรสุทธิในปี 56-58 เท่ากับ 15.84 ล้านบาท, 25.59 ล้านบาท และ 14.04 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิได้เท่ากับ 5.10%, 6.27% และ 3.34% ตามลำดับ
ในปี 58 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีอัตรากำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบจากปี 57 เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนพนักงานทั้งระดับปฏิบัติการ และระดับผู้บริหาร รวมถึงมีการปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงาน เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบริหารธุรกิจ มีการทำโฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านการตลาดออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับสิทธิการเช่าตัดบัญชีที่เพิ่มสูงขึ้น จากการที่ BIDC ได้ลงทุนซื้อสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างสินทรัพย์เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหลัก
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีสินทรัพย์รวม 244.80 ล้านบาท หนี้สินรวม 138.73 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 106.08 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย และการบริการ 211.07 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.77 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 75 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 150 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน 50 ล้านหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 3 มิ.ย.2559 ประกอบด้วย กลุ่มครอบครัวตันตาปกุล ถือหุ้น 149,998,000 หุ้น คิดเป็น 100% หลังการเสนอขายหุ้นในคร้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 75% และบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 50 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.เอเชีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทมีวัตถุประสงค์ใช้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน
โดย บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น ให้บริการด้านทันตกรรม คลินิกทันตกรรม โดยกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี และวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย ให้บริการทางทันตกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการรักษาในระดับสากล และมุ่งเน้นการเอาใจใส่ต่อผู้เข้ารับบริการ ในรูปแบบศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรม ภายใต้แบรนด์ “BIDC” “Dental Signature” และ “Smile Signature” ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทมีทั้งหมด 12 สาขา เป็นศูนย์ทันตกรรมจำนวน 2 สาขา และคลินิกทันตกรรม จำนวน 10 สาขา
โครงการในอนาคต บริษัทฯ ยังไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะดำเนินการในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ มีเพียงการขยายสาขา และดำเนินการ เพื่อพัฒนาการให้บริการของสาขาที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทต้องการมุ่งเน้นพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการให้เป็นศูนย์ทันตกรรม หรือคลินิกทันตกรรมที่เทียบเท่าระดับสากลให้มากขึ้น และมีการให้บริการการรักษาเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัทให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในการขยายสาขานั้น บริษัทฯ จะต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น ทำเลที่ตั้ง ค่าเช่าสถานที่ อยู่ในโซนที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากน้อยเพียงใด ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้แผนการขยายสาขาเปลี่ยนแปลงได้ บริษัทจะพิจารณาเพื่อประโยชน์สูงสุดของกิจการเป็นหลัก ส่วนโครงการโรงพยาบาลทันตกรรมภายใต้ BIDH นั้น ณ ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ แต่วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งก็เพื่อรองรับโครงการในอนาคตที่อาจจะจัดตั้งเป็นโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่รับคนไข้ค้างคืนที่ให้บริการด้านทันตกรรมโดยเฉพาะ
สำหรับผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา รายได้รวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในปี 56-58 เท่ากับ 310.42 ล้านบาท, 408.26 ล้านบาท และ 420.29 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 31.52% ในปี 57 และ 2.94% ในปี 58 ส่วนกำไรสุทธิในปี 56-58 เท่ากับ 15.84 ล้านบาท, 25.59 ล้านบาท และ 14.04 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิได้เท่ากับ 5.10%, 6.27% และ 3.34% ตามลำดับ
ในปี 58 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีอัตรากำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบจากปี 57 เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนพนักงานทั้งระดับปฏิบัติการ และระดับผู้บริหาร รวมถึงมีการปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงาน เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบริหารธุรกิจ มีการทำโฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านการตลาดออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับสิทธิการเช่าตัดบัญชีที่เพิ่มสูงขึ้น จากการที่ BIDC ได้ลงทุนซื้อสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างสินทรัพย์เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหลัก
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีสินทรัพย์รวม 244.80 ล้านบาท หนี้สินรวม 138.73 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 106.08 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย และการบริการ 211.07 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.77 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 75 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 150 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน 50 ล้านหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 3 มิ.ย.2559 ประกอบด้วย กลุ่มครอบครัวตันตาปกุล ถือหุ้น 149,998,000 หุ้น คิดเป็น 100% หลังการเสนอขายหุ้นในคร้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 75% และบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภท