แรงซื้อ LDC กระฉูด เปิดเทรดวันแรกวิ่งขึ้นทะลุ 4.50 บาท หรือ 200% จากราคา IPO ที่ 1.50 บาท ณ เวลา 10.00 น. จากปัจจัยพื้นฐานหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 25 แห่งในสิ้นปีนี้
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า การเข้าซื้อขายบนกระดานของหุ้น บมจ.แอลดีซี เด็นทัล หรือ LDC ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดที่ระดับ 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท จากราคา IPO ที่ 1.50 บาท/หุ้น ณ เวลา 10.00 น. มูลค่าการซื้อขาย 289.62 ล้านบาท
นายแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอลดีซี เด็นทัล หรือ LDC กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 347.61 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 25 แห่งในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 21 สาขา พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 40 สาขา ภายในปี 2560
“ผมยืนยันว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีนโยบายขายหุ้นออกอย่างแน่นอน แม้จะมีหุ้นที่ไม่ติดไซเรนซ์ พีเรียด 14.5% เพราะเป็นคนสร้างขึ้นมา ถึงแม้ว่าราคาจะขึ้นไปสูงขึ้น เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ประกอบกับมีการจ่ายเงินปันผลนโยบายไม่ต่ำกว่า 40% ซึ่งในอนาคตเราวางเป้าหมายจะเป็นบริษัทฯ ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด”
ขณะที่ นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.แอลดีซี เด็นทัล (LDC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 กันยายน 2557 โดย LDC เป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางด้วยคุณภาพระดับสูง ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “LDC” ปัจจุบันมีศูนย์ทันตกรรมให้บริการ จำนวน 19 สาขา และคลินิกทันตกรรมทั่วไป 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง LDC ยังมีสถาบันฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมของตัวเอง สำหรับผลิตบุคลากรสนับสนุนงานด้านทันตกรรมเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26-28 สิงหาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37%
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 2556-30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองต่างๆ ทั้งหมด