LDC เตรียมเข้าเทรดใน mai วันที่ 2 ก.ย.นี้ ราคา IPO ที่หุ้นละ 1.50 บาท เผยระดมทุน 180 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆ ทั้งหมด
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 ก.ย. 57
โดย LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26-28 ส.ค. 57 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัทแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ด้านทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ LDC เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ภายใน 1 ปี
สำหรับ LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 ก.ค. 56-30 มิ.ย.57) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ LDC เป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะ ภายใต้แบรนด์ LDC ปัจจุบันมีศูนย์ทันตกรรมให้บริการจำนวน 19 สาขา และคลินิกทันตกรรมทั่วไป 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆ ทั้งหมด