คอลลิเออร์ส เผยผลสำรวจตลาดอสังหาฯ หัวหิน ชะอำ ปราณบุรี พบบ้าน-คอนโดฯ 3-5 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่อง ผู้ซื้อนิยมคอนโดฯ อยู่ไม่ไกลจากชายหาด เผยครึ่งปีแรกโครงการเปิดใหม่มีแค่ 391 ยูนิต เหตุผู้ประกอบการหวั่นฟองสบู่ หันระบายสต๊อกแทน
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยถึงตลาดที่อยู่อาศัยในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี พบว่า ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี มาจากกรุงเทพมหานคร ผู้ซื้อคนไทยเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะอำ หัวหิน และปราณบุรี โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม คนไทยส่วนใหญ่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองชายทะเล เพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือบ้านพักผ่อนในวันหยุด
นอกจากนี้ ผู้ซื้อคนไทยบางส่วนยังสนใจซื้อบ้าน หรือวิลล่า ในพื้นที่หัวหินฝั่งภูเขา ซึ่งมีราคาขายไม่แพง หรือว่าใกล้เคียงกับราคาขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเล โดยเฉพาะในช่วงก่อนหมดอายุมาตรการ 28 เมษายน 2559
สำหรับยูนิตที่ขายได้ส่วนใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ คอนโดมิเนียม เพราะมีราคาขายต่ำกว่าบ้านจัดสรร และวิลล่า คอนโดมิเนียมยังมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าโครงการบ้านจัดสรร หรือวิลล่า นอกจากนี้ คอนโดมิเนียมที่ขายได้ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากชายทะเลมากนัก
คอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี จะยังไม่มีการปรับราคาขึ้นแบบชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปี 2559 ผู้ประกอบการทุกรายยังคงจับตามองตลาดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในส่วนของกำลังซื้อ ซึ่งยังคงขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย
“ความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ผู้ซื้อส่วนใหญ่ให้ความสนใจโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาด แต่ว่าไม่ใช่โครงการที่ติดชายหาด” นายสุรเชษฐ กล่าว
ในช่วงครึ่งแรกปี 2559 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ชะลอการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมใหม่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ในช่วงครึ่งแรกปี 2559 โดยหันไปให้ความสำคัญต่อยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า ก่อนที่มาตรการของรัฐบาลจะหมดอายุในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559 และถึงแม้ว่ามาตรการรัฐบาลจะหมดอายุไปแล้ว ผู้ประกอบการหลายรายก็ยังพยายามดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น โดยการออกมาตรการทางการตลาดที่เหมือน หรือใกล้เคียงกับมาตรการของรัฐบาล
สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงต่ำกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ เพราะปัจจัยลบมากมายทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ดังนั้น คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่มีความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินของตนเองในระยะยาว นอกจากนี้ จำนวนของยูนิตที่อยู่อาศัยที่เปิดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยังคงเหลืออยู่ในตลาด ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้ประกอบการทุกราย
ทั้งนี้ จำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา โดยเฉพาะในช่วงปี 2558 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เพียง 2,000 ยูนิตเท่านั้น เทียบกับ 4,000 ยูนิตในปี 2557 และมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เพียงประมาณ 391 ยูนิตเท่านั้น ในช่วงครึ่งแรกปี พ.ศ.2559
อย่างไรก็ตาม มีคอนโดมิเนียมใหม่หลายโครงการที่มีกำหนดเปิดขายในช่วงครึ่งหลังปี 2559 โดยเป็นโครงการในระดับกลาง-ล่าง ในขณะที่มีโครงการบ้านจัดสรรไม่กี่โครงการที่เปิดขายเฟสใหม่ หรือมีแผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยวประสบกับปัญหาในเรื่องของกำลังซื้อที่ลดลง แต่ว่าในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ไม่ได้ลดลงมากแบบจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ
โครงการระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่หลายโครงการของรัฐบาล เช่น รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หัวหิน และโครงการท่าเรือเฟอร์รี่ระหว่างพัทยา-ปราณบุรี คาดว่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับชะอำ และหัวหิน
อัตราการขายเฉลี่ยของทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรร ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราการขายของบ้านจัดสรรอยู่ที่ประมาณ 74% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่คอนโดมิเนียมมีอัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 70% โดยที่มีผู้ซื้อบางรายยกเลิกการจองทำให้กระทบต่ออัตราการขายเฉลี่ยยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วจำนวนไม่น้อยที่ขายได้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ส่วนราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรยังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พบว่า ชะอำ คอนโดมิเนียมราคาขายเฉลี่ย 79,500 บาท/ตารางเมตร บ้านจัดสรรเฉลี่ย 10 ล้านบาท/ยูนิต, หัวหิน ฝั่งชายทะเล คอนโดฯ 85,000 บาท/ตร.ม. บ้านจัดสรร เฉลี่ย 12 ล้านบาท/ยูนิต , หัวหินฝั่งภูเขา คอนโดฯ 63,500 บาท/ตร.ม. บ้านจัดสรร 6 ล้านบาท/ยูนิต ปราณบุรี คอนโดฯ 92,000 บาท/ตร.ม. บ้านจัดสรร 5.5 ล้านบาท/ยูนิต