xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนชะลอลงทุนรับมือเศรษฐกิจ ศูนย์ข้อมูลฯ เผย 7 เดือนเปิดโครงการใหม่ลดฮวบ 19%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัมมา คีตสิน
ผู้ประกอบการปรับตัวรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว เลื่อนเปิดโครงการใหม่ หันระบายสต๊อกฉุดตัวเลขเปิดโครงการใหม่ลดฮวบ ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย 7 เดือน เปิด 191 โครงการ 48,160 ยูนิต ลด 19% คอนโดฯ ลดมากสุด 23% บ้านจัดสรรลด 12% คาดทั้งปีเปิดใหม่แค่ 1 แสนยูนิต

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วง 7 เดือนแรกปี 2559 ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม 191 โครงการ รวม 48,160 ยูนิต ลดลง 19% จาก 7 เดือนแรกของปี 2558 ที่มีโครงการเปิดใหม่ 243 โครงการ รวม 59,540 ยูนิต

สำหรับโครงการเปิดใหม่ 7 เดือนแรก แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 72 โครงการ จำนวน 28,160 ยูนิต ลดลงมากถึง 23% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีโครงการเปิดใหม่ 87 โครงการ จำนวน 36,780 ยูนิต ส่วนโครงการบ้านจัดสรร เปิดใหม่ 120 โครงการ จำนวน 20,000 ยูนิต ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เปิดขายใหม่ 156 โครงการ จำนวน 22,760 ยูนิต

ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 152 โครงการ ประมาณ 60,410 ยูนิต ใกล้เคียงกับปี 2558 ที่เปิดโครงการใหม่ จำนวน 60,500 ยูนิต ขณะที่โครงการแนวราบ คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ 292 โครงการ 44,450 ยูนิต ใกล้เคียงกับปีที่ 2558 ที่มีจำนวน 45,160 ยูนิต

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้กำลังซื้อลด ความเชื่อมั่นทั้งภาคเอกชน และผู้บริโภคลดลง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่ หันไปเร่งระบายสต๊อกสินค้าเพื่อให้ทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาลแทน อีกทั้งยังต้องการรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ และภาวะตลาด ก่อนตัดสินใจลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

“ปัจจุบัน ผู้ประกอบการมีการลงทุนอย่างระมัดระวังมาก ต่างจากในอดีตก่อนวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ซึ่งบทเรียนในอดีตทำให้ผู้ประกอบการรู้จักปรับตัวชะลอการลงทุนเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว หรือเร่งเปิดโครงการใหม่ เมื่อเห็นว่ากำลังซื้อฟื้น โดยไม่ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาเตือน ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการแต่ละรายเลื่อนเปิดโครงการใหม่เฉลี่ย 2-3 โครงการต่อราย แต่สำหรับรายใหญ่ คาดว่าจะเลื่อนเปิดโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ” นายสัมมา กล่าว

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลยังได้เปิดเผยตัวเลขที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขต กทม.-ปริมณฑล (5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม โดยพบว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2559 มีจำนวนยูนิตสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่รวมประมาณ 58,900 ยูนิต เพิ่มขึ้น 8% เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนประมาณ 54,000 ยูนิต แบ่งเป็น ห้องชุด 32,900 ยูนิต บ้านเดี่ยว 16,600 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ 6,900 ยูนิต อาคารพาณิชย์ 1,600 ยูนิต และบ้านแฝด 900 ยูนิต โดยเป็นในเขต กทม. จำนวน 26,000 ยูนิต ลดลง 9% และในปริมณฑลทั้ง 5 จังหวัดรวมกัน จำนวน 32,900 ยูนิต เพิ่มขึ้น 28%

ส่วนทำเลที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บางบัวทอง 1,500 ยูนิต เขตบางขุนเทียน 1,300 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรสาคร 1,200 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรปราการ 1,100 ยูนิต และอำเภอบางพลี 1,000 ยูนิต และประเภทห้องชุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอธัญบุรี 7,800 ยูนิต อำเภอนนทบุรี 4,300 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรสาคร 2,700 ยูนิต ซึ่งจำนวนนี้ทั้งหมดเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรท่าจีน 1-3 อำเภอเมืองนครปฐม 2,200 ยูนิต เป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรพระประโทน 1-2 จำนวน 1,200 ยูนิต ที่เหลือเป็นโครงการของเอกชน และเขตลาดกระบัง อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีแรกมีอาคารชุดเอื้ออาทรสร้างเสร็จของการเคหะแห่งชาติ 5 โครงการ รวม 85 อาคาร รวม 3,900 ยูนิต

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขนกรุงเทพ-ปริมณฑล (5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม) พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์รวมกันประมาณ 101,200 ยูนิต เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 83,400 ยูนิต แบ่งเป็น ห้องชุด 54,600 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 54% ทาวน์เฮาส์ 27,200 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 27% บ้านเดี่ยว 11,300 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 11% อาคารพาณิชย์ 5,500 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 5% และบ้านแฝด 2,600 ยูนิต

สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 290,889 ล้านบาท เติบโต 7.5% แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรวมกันประมาณ 169,323 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58.9% และสินเชื่อจากธนาคารภาครัฐ 114,012 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประมาณ 24.7% และธนาคารออมสิน ประมาณ 14.1% และจากสถานการเงินอื่นๆ 7,555 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.3% ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีมีจะมูลค่าปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 590,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น