KTBST มองหุ้นไทยวันนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ จากทิศทางเงินไหลเข้าตลาดในภูมิภาค ส่วนปัจจัยในประเทศ ช่วงสั้นๆ ยังไม่เห็นปัจจัยลบเข้ามาในตลาด แต่ปัจจัยบวกคงเป็นเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งสะท้อนมาจากหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมให้กรอบ 1,494-1,510 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (23 ก.ย.) คาดว่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน หุ้นขนาดใหญ่ยังเป็นกลุ่มหลักที่คาดจะมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีที่ 1,494-1,510 จุด
ขณะที่ตลาดต่างประเทศในคืนที่ผ่านมา คล้ายกับวันก่อน น่าเป็นเพราะรับผลจากปัจจัยบวกจากผลประชุม FOMC และ BOJ โดย Dollar Index และ Bond Yield ของสหรัฐฯ อ่อนค่าลง น่าจะส่งผลมาถึงตลาดเอเชียเช้านี้ด้วย ที่น่าจับตาคือ ผลจากการประชุม BOJ จะมีผลต่อค่าเงินเยนอย่างไร และจะอ่อนค่าลงหรือไม่ (ถ้าเยนอ่อนลงเทียบดอลลาร์สหรัฐ น่าจะเป็นบวกกับตลาด)
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดไปที่ 46 เหรียญสหรัฐ เห็นประเทศในกลุ่ม OPEC มีการแสดงความจริงจังต่อการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในสัปดาห์นี้ หากมีสัญญาณว่ากำลังการผลิตน้ำมันในตลาด จะเข้าใกล้ระดับสมดุลกับความต้องการใช้น้ำมันเร็วเท่าใด จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่ จะมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบ WTI จะขึ้นแตะ 50 เหรียญสหรัฐ ก่อนประชุมได้ด้วย เพราะตอนนี้ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า เป็นบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากการนี้จะเป็นผู้ผลิตน้ำมัน
ส่วนปัจจัยในประเทศ ช่วงสั้นๆ ยังไม่เห็นปัจจัยลบเข้ามาในตลาด แต่ปัจจัยบวกคงเป็นเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งสะท้อนมาจากหุ้นขนาดใหญ่ที่เดินหน้าบวกต่อ ข่าวที่ กกพ.กำหนดเปิดให้เอกชนยื่นขอเสนอขายไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ย. จะทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้อง
“ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ จากปัจจัยบวกในเรื่องดอกเบี้ยในตลาดที่คงอยู่ในระดับต่ำ อันเป็นผลจากการประชุม FOMC และ BOJ และเงินลงทุนต่างประเทศที่ยังเข้ามาในตลาดไทย (หุ้น+พันธบัตร) คาดว่าดัชนีในวันนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน”
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจากที่มองทิศทางตลาดหุ้นว่า ยังเดินหน้าต่อได้ หุ้นขนาดใหญ่ยังเป็นกลุ่มหลักที่คาดจะมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องจากวันก่อน รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยบวกอื่นๆ หุ้นที่มองว่าน่าสนใจ
สำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น แบ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ PTT, BANPU, IVL และ CPF ส่วนหุ้นที่มีข่าวหรือปัจจัยบวกเฉพาะตัวอื่นๆ เช่น WICE, SVI, ASK