xs
xsm
sm
md
lg

ค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ในการประชุมเดือนหน้า อยู่ที่ 20.0%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


KTBST มองกรอบ SET วันนี้ อยู่ที่ระดับ 1,538-1,555 จุด คาดยังรับปัจจัยบวกจากตลาดในต่างประเทศ ระบุค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ในการประชุมเดือนหน้า อยู่ที่ 20.0% แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงในกันตามปกติ

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST มองทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ (19 ส.ค.) โดยระบุว่า จากการคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ มีโอกาสน้อยลงตามลำดับ หลังในการประชุมครั้งที่ผ่านมา กรรมการ FOMC ยังไม่มีความเห็นไปในทางเดียวกันที่จะให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้

สำหรับค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ในการประชุมเดือนหน้า อยู่ที่ 20.0% แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงในกันตามปกติ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง

ส่วนราคาน้ำมันดิบในคืนที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ก็ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบจากแหล่ง Brent ขึ้นปิดเหนือ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 31 ก.ค.58 เป็นต้นมา ทิศทางราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง เป็นผลจาก 2 ปัจจัย คือ ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และการคาดหวังการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันที่คาดว่าจะมีขึ้นต้นเดือน ต.ค. ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น

ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังค่าเงินเยนกลับมาซื้อขายเหนือ 100 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อีกครั้งหนึ่ง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นสูงขึ้นด้วย ส่งผลบวกทางจิตวิทยามาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ในวันนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้แทบจะไม่มีอะไรใหม่เข้ามาในตลาด แต่ทิศทางตลาดหุ้น คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการสูงขึ้นของทั้งราคาน้ำมัน และดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศที่สูงขึ้น เป็นผลพวงจากเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ รวมทั้งแรงซื้อจากสถาบันในประเทศ จะดันให้ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,538-1,555 จุด

โดยกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำว่าการพลิกกลับเข้ามาซื้อหุ้นของกองทุนในประเทศ ทำให้ทิศทางตลาดวานนี้ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงกลับไปปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าการพักตัวของตลาดนั้นสิ้นสุดลงก็เป็นได้

ดังนั้น กลยุทธ์ในวันนี้ แม้ตลาดจะดูเป็นบวก แต่คงต้องระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้นที่อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อ จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นไปแรง การเข้าลงทุนในวันนี้คงต้องเน้นไปที่หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศ หรือกองทุนฯ ให้ความสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเฉพาะแนวโน้มกำไรของบริษัทนั้นๆ หุ้นที่แนะนำเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ PTT, BDMS, BAFS, TWPC, ATP30
กำลังโหลดความคิดเห็น