ข่าว นายกมล เอี้ยวศิวิกูล อดีตประธานกรรมการ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถูกนำเสนอบนพื้นที่เล็กๆ ในสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ ทั้งที่น่าเป็นข่าวใหญ่สำหรับตลาดหุ้น เพราะนายกมล เป็นนักลงทุน “ขาใหญ่”
นายกมล ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เพราะมูลหนี้เพียงประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการเซ็นค้ำประกันเช็คร่วมกับบริษัท สมุย เพนนินซูล่า ที่บริษัท ไมด้า แอสเซ็ทฯ ร่วมทุนด้วย และการค้ำประกันเช็ควงเงินประมาณ 60 ล้านบาท จึงทำให้ขาใหญ่ในตลาดหุ้นที่มีเงินลงทุนนับพันล้านบาท ในฐานะเจ้าพ่อหุ้นกลุ่มตระกูล “ไมด้า” ต้องเจอโทษหนักในทางแพ่ง
นายกมล เป็นผู้ปลุกปั้นหุ้นตระกูล “ไมด้า” เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น เริ่มด้วยหุ้น บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) โดยนำหุ้นมาเสนอขายประชาชนทั่วไปในราคา 10 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท และหุ้นเข้าซื้อขายเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2546 ในปี 2547 ได้นำหุ้น บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เข้ามาจดทะเบียน และตามด้วยหุ้นบริษัท ไมด้า - เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในปี 2548
หุ้นตระกูลไมด้าจัดอยู่ประเภทเดียวกัน เพราะมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน พุ่งก็พุ่งแทบจะยกแผง รูดก็รูดกันแทบทั้งแถบ โดยเป็นหุ้นตัวเล็ก แต่ร้อนจัด ราคาขึ้นลงหวือหวา มีการปล่อยข่าวดีกระตุ้นราคากันเป็นระยะๆ หุ้นกลุ่มไมด้ามีพฤติกรรมหุ้นที่มี “เจ้ามือ” ราคาเคลื่อนไหวร้อนแรง ข่าวลือเยอะ ลูกเล่นมากมาย ทั้งการออกวอร์แรนต์กระตุ้นราคา หรือการแตกพาร์ หรือ “สปลิทหุ้น” ผู้บริหารบริษัทก็ขยันออกข่าวอีกด้วย
ความร้อนแรงของหุ้นตระกูลไมด้า ทำให้ตลาดหลักทรัพย์เพ่งเล็ง และตรวจสอบการซื้อขายเป็นระยะ แต่กลุ่มเอี้ยวศิวิกูล ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่เคยถูกกล่าวโทษในความผิดปั่นหุ้น แม้นายกมล จะเคยถูกปรับวงเงิน 500,000 บาท ในความผิดสร้างราคาหุ้น แต่ก็เป็นความผิดจากการร่วมสร้างราคาหุ้นบริษัท ทรัพย์ศรีไทยคลังสินค้า จำกัด (มหาชน) เมื่อประมาณปี 2555
หลังจากมีข่าวศาลล้มละลายกลางพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด นายกมล บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด ก็แถลงข่าวด่วนทันที ชี้แจงว่า นายกมล ไม่มีความเกี่ยวพันใดกับบริษัท พ้นจากการเป็นผู้บริหาร และไม่มีหุ้นในบริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จึงไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนายกมล ไม่ว่านายกมล จะเป็นผู้บริหาร และถือหุ้นบริษัท ไมด้า แอสเซ็ทอยู่หรือไม่ คงไม่มีผลกระทบใดต่อหุ้นตระกูลไมด้าเท่าใดแล้ว เพราะราคาหุ้นนอนแอ้งแม้งสิ้นฤทธิ์มานานแล้ว หลังเข้ามาสร้างสีสันความร้อนแรง ดูดเงินนักลงทุนรายย่อยจนกระเป๋าแฟบไปตามๆ กัน
ผลดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มไมด้า ไม่ได้เลิศหรูเหมือนราคาคุยของผู้บริหาร ผลประกอบการไม่ได้เติบโตอย่างโดดเด่น ราคาหุ้นจึงเคลื่อนไหวในสภาพซังกะตาย นักลงทุนรายย่อยจำนวนนับหมื่นคนถูกล่อไปติดยอดดอยเป็นแถว ก่อนที่ไมด้า แอสเซ็ท จะถูกแต่เนื้อแต่งตัวเพื่อระดมเงินจากตลาดหุ้น กลุ่มเอี้ยวศิวิกูล เป็นกลุ่มธุรกิจที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่หลังจากไมด้าฯ เข้าตลาดหุ้น กลุ่มเอี้ยวศิวิกูล ก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีเครือข่ายกว้างขวาง มีบริษัทในเครือร่วมครึ่งร้อยแห่ง และยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียด้วย
ไมด้า ขยายอาณาจักรธุรกิจลงไปทางทิศตะวันตก มีโรงแรมหรูที่จังหวัดนครปฐม มีรีสอร์ต และสนามกอล์ฟ ไมด้า ที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่สนามกอล์ฟมีปัญหาบุกรุกที่ ส.ป.ก.นับพันไร่ และเพิ่งถูกกรมป่าไม้ บุกยึดเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับกันว่า นายกมล เชี่ยวชาญเรื่องตลาดหุ้นจริง เก่งที่จะใช้ช่องทางในตลาดหุ้น จนทำให้กลุ่มบริษัท ไมด้า โตอย่างพรวดพราด
ไม่รู้ว่านักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปเล่นหุ้นกลุ่มไมด้า ใครรวยใครจนกันบ้าง แต่ที่รู้ๆ การที่กลุ่มไมด้าเข้ามาระดมเงินในตลาดหุ้นได้ ทำให้ตระกูลเอี้ยวศิวิกูล รวยกันถ้วนหน้า และ “กมล เอี้ยวศิวิกูล” น่าจะเหลือเยอะๆ รายย่อยที่ชอบตามแห่ เล่นหุ้นตามข่าว ชอบไล่หุ้นร้อน ซื้อขายตามเสียงเชียร์ น่าจะพิจารณาหุ้นตระกูล “ไมด้า” ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เพราะฉากสุดท้ายของหุ้นร้อนจะเหลือแต่บรรดานักลงทุนรายย่อยเท่านั้นที่ติดหุ้นอยู่บนยอดดอย
ชุมชนคนหุ้น...สุนันท์ ศรีจันทรา
