ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไมด้า แอสเซ็ท” สยายปีกธุรกิจสู่โรงแรม-สนามกอล์ฟ เผย 5 ปีอัดเม็ดเงินร่วม 7 พันล้านบาท เนรมิตโรงแรม 10 แห่ง ขนาด 1.4 พันห้อง หวังรายได้ 1.5 พันล้านบาท หรือ 30% ของรายได้รวมในปี 2559 พร้อมระดมทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์
นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ที่ปรึกษา บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจการขายเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการขยายการดำเนินงานสู่ธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟมาตั้งแต่ปี 2554 โดยใช้เวลาศึกษาตลาดประมาณ 2 ปี จนปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 6 แห่ง และสนามกอล์ฟ 1 แห่ง พร้อมกันนั้นยังมีการลงทุนในธุรกิจโรงแรมเพิ่มอีก 4 แห่งในช่วงปี 2558-2559 รวมเป็นงบลงทุนทั้งสิ้น 6.9 พันล้านบาท ประกอบด้วย
1. โรงแรม ไมด้า รีสอร์ท ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ระดับ 3 ดาว ขนาด 125 ห้อง ใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท 2. โรงแรม ไมด้า โฮเทล งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี ระดับ 3 ดาว ขนาด 138 ห้อง ใช้เงินลงทุน 400 ล้านบาท 3. โรงแรม ไมด้า เดอซี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระดับ 4 ดาว ขนาด 113 ห้อง ใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท 4. โรงแรม ไมด้า รีเสิร์ท จ.กาญจนบุรี ระดับ 4 ดาว ขนาด 92 ห้อง ใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท 5. สนามกอล์ฟ ไมด้า กอล์ฟ คลับ และที่พักเลกไซต์ เดอชาเลต์ จ.กาญจนบุรี ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทฯ กำลังจะเปิดตัวโรงแรมแห่งที่ 6 อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พ.ค. ศกนี้ หลังจากทดลองเปิดบริการมาแล้วประมาณ 4 เดือน คือ โรงแรมไมด้า ทราวดี แกรนด์ จ.นครปฐม ระดับ 4 ดาว ขนาด 195 ห้อง ภายใต้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท จากนั้นในปี 2559-2560 จะเปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ โรงแรม SEN จ.นครปฐม ในลักษณะบัดเจ็ต โฮเต็ล (Budget Hotel) ขนาด 132 ห้อง ใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังจะลงทุนในลักษณะบูติกโฮเต็ล พร้อมชายหาดส่วนตัว ใน จ.ระยอง ด้วยงบประมาณ 1 พันล้านบาท และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท พร้อมกับลงทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านบาทเพื่อเปิดโรงแรมใหม่ใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารธุรกิจเชนโรงแรม “เรดิสัน บลู”
“การลงทุนเพิ่มใน จ.นครปฐม เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันในเส้นทางเชื่อมต่อตั้งแต่นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ยังไม่มีโรงแรมคุณภาพที่มีมาตรฐานการบริการในระดับเดียวกับกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่เริ่มมีความเจริญทางด้านต่างๆ กระจายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือทวายเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งกับประเทศพม่าหลังจากเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จึงคาดว่าจะส่งให้ นครปฐม มีการพัฒนาทางด้านต่างๆ มากขึ้น” นายกมลกล่าว
นายกมลกล่าวในตอนท้ายว่า จากแผนการลงทุนในธุรกิจโรงแรมทำให้คาดว่าในปี 2558 กลุ่มไมด้าจะมีจำนวนห้องพักรวม 750 ห้อง จากโรงแรม 6 แห่ง พร้อมทำรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่ในปี 2559 จะมีจำนวนห้องพักเพิ่มเป็น 1.4 พันห้องจากจำนวนโรงแรมทั้งหมด 10 แห่ง พร้อมทำรายได้เพิ่มเป็น 1.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของรายได้รวม
ทางด้าน นายสรศักดิ์ เอี้ยวศิวิกูล รองประธานกรรมการ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมในระดับทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง แต่คาดว่าในปี 2558 จะมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับการลงทุนต่อเนื่องของบริษัทฯ
ปัจจุบันลูกค้าหลักผู้ใช้บริการโรงแรมของกลุ่มไมด้าเป็นคนไทยถึง 80% ต่างชาติประมาณ 20% โดยส่วนใหญ่ 70% เป็นลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในกลุ่มองค์กรประชุมสัมมนา และการจัดกิจกรรมอีเวนต์ขนาดกลางและใหญ่ในอุตสาหกรรมไมซ์ โดยมีสัดส่วนรายได้จากค่าที่พักและค่าเช่าสถานที่ 50% และค่าอาหารและเครื่องดื่ม 50% โดยในปี 2559 เป็นต้นไปจะเริ่มเน้นกลุ่มลูกค้าทัวร์ In Bound จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป
“จากการลงทุนทั้งหมดในธุรกิจโรงแรมด้วยงบประมาณกว่า 6.9 พันล้านบาท บริษัทฯ คาดว่าแต่ละแห่งจะใช้ระยะเวลาคืนทุน 8-10 ปี หรือใช้ระยะเวลารวมในการคืนทุนประมาณ 10 ปี โดยในอนาคตอันใกล้ยังเตรียมความพร้อมเพื่อนำธุรกิจโรงแรมเข้าไประดมทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำเงินที่ได้จากการขยายกองทุนดังกล่าวมาขยายธุรกิจโรงแรมเพิ่มอีกในอนาคต โดยอาจเป็นทั้งในลักษณะลงทุนเองและเป็นเชนโรงแรม” นายสรศักดิ์กล่าวในที่สุด