วสท.ยันแผ่นดินไหวพม่า ไม่กระทบอาคารในไทย เชื่อพ.ร.บ.ความคุมอาคารการก่อสร้างของไทยมีมาตรฐานสูง พร้อมแนะเจ้าของอาคารหมั่นตรวจสอบหากพบรอยร้าวรีบแจ้งวิศวกรตรวจสอบ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)และอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ความรุนแรงระดับ 6.7 แมกนิจูด แม้ว่าอาคารสูงในกรุงเทพฯ จะรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีอาคารในไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวดังกล่าว เนื่องจากเกิดขึ้นไกลจากกรุงเทพฯ มาก
ทั้งนี้ เหตุแผนดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เป็นบททดสอบอาคารสูงของไทยได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ได้รับผลกระทบ และมีความแข็งแรงเพียงพอ โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ทรายข่าว อ.พราน จ.เชียงราย ความรุนแรงระดับ 6.2 แมกนิจูด ซึ่งในครั้งนั้นถือว่ารุนแรง และใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด และเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547 ที่เกิดสึนามิตามมา แต่อาคารต่างๆ ในกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้รับผลกระแต่อย่างใด
ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความคุมอาคารของไทยถือว่ามีมาตรฐานสูงในระดับสากล เพราะเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 5 ครั้ง ประชาชนที่อยู่ตึกสูงสบายใจได้ว่า อาคารสูงของไทยมีความปลอดภัยเพียงพอ และสามารถรองรับแผนดินไหวได้ไม่น้อยกว่า 5-6 แมกนิจูด ขณะที่ตึกเก่าสร้างก่อนปี 2550 แม้จะยังไม่มีกฎหมาย ยังไม่ได้บังคับให้ก่อสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว แต่ก็ต้องสร้างเพื่อรับแรงลมที่มีความแรงสูง แม้จะมีการปะทะที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไม่ต่างกัน นอกจากนี้ อาคารขนาดใหญ่ หรือตึกสูง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูง ดังนั้น การออกแบบก่อสร้างจึงต้องใช้มาตรฐานสูง มีกฎหมายหมายควบคุมหลายอย่าง จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ยกเว้นเจ้าของอาคารต้องการเลี่ยงกฎหมายเอง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน เหตุแผ่นดินไหวเกินขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น จึงต้องการเรียกร้องให้เจ้าของอาคารหมั่นตรวจสอบอาคาร หากพบรอยร้าว หรือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอาคารหรือไม่ หากพบ ควรแจ้งวิศวกรให้ทำการตรวจสอบ และทำการซ่อมแซม แก้ไขต่อไป โดยเฉพาะอาคารเก่า ตึกแถวที่สร้างมาเป็นเวลานาน แต่หากเจ้าของอาคารต้องการเสริมความแข็งแรงให้แก่อาคาร สามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการเสริมค้ำยัน เสริมคาน อื่นๆ แต่ควรปรึกษาวิศวกร.