ตราด - เลขาธิการ วสท.ชี้โรงแรมสยามบีช เกาะช้าง ปลูกคร่อมทางน้ำ จนเป็นเหตุอาคารทรุดหลังเกิดฝนตกหนักจนทำให้ดินอ่อน
ช่วงบ่ายวันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประชุมเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุการทรุดตัวของโรงแรมสยามบีช เกาะช้าง ซึ่งจัดขึ้นที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักธรณีวิทยาปฏิบัติงาน หัวหน้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตราด เลขาธิการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย โยธาธิการและผังเมืองตราด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น
นายเมที แสงศักดา หัวหน้ากองช่างเทศบาลตำบลเกาะช้าง ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ว่า ได้ขออนุญาตดำเนินการเมื่อปี 2546 หรือประมาณ 13 ปีก่อน และเป็นการขออนุญาตดำเนินการที่ถูกต้อง โดยการออกเอกสารในช่วงนั้นยังเป็นการออกโดยองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้าง แต่ยังหาเอกสารไม่พบ เนื่องจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้างเคยถูกน้ำท่วมมาก่อน
ผลจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า อาคารดังกล่าวไม่มีความปลอดภัย และยังมีอาคารที่เกิดรอยร้าว จึงได้ประกาศห้ามใช้อาคารทั้งหมด
สำหรับกรณีการปลูกสร้างอาคารคร่อมทางน้ำนั้น พบว่า ไม่มีการตอกเสาเข็มเนื่องจากวิศวกรออกแบบได้ใช้ฐานแยกส่วน สาเหตุของการก่อสร้างอาคารข้างกับเขตเขานั้น พบว่า สภาพพื้นที่ดั้งเดิมมีการออกแบบก่อสร้างเป็นอาคารแยก จำนวน 6 อาคาร และอาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่ 5
โดยหลังการประชุมผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อวิเคราะห์โครงสร้างของอาคาร
ขณะที่ รศ.สิริวัฒน ไชยชนะ วิศวกรรมสถาน เผยว่า ได้พบพื้นที่ด้านหลังอาคารเป็นเขาลาดเอียง และหน้าอาคารมีร่องน้ำที่ทางโรงแรมอ้างว่าเป็นสระน้ำที่ปลูกดอกไม้ และเก็บน้ำไว้รดต้นไม้ ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวถือว่าไม่ถูกหลักวิศวกรรม
“จากการดูพื้นที่ก่อสร้างพบว่า อาคารที่สร้างสร้างคร่อมทางน้ำไหลจากเขา เมื่อฝนตกลงมาหลายวันติดต่อกันจะทำให้ดินด้านล่างอ่อน และเป็นสาเหตุที่อาคารรับน้ำหนักไม่ไหว และเกิดทรุดลงมา ส่วนที่เกิดในเวลาไม่กี่วินาทีนั้นเพราะเมื่อมีเสาค้ำอันใดอันหนึ่งหักโค่นลงมาก็จะดึงรั้งเสาอื่นที่ค้ำอาคาร และทรุดตัวอย่างรวดเร็ว” รศ.สิริวัฒน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อาวัฒน์ พิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.เกาะช้าง กล่าวว่า ในการดำเนินคดีทางกฎหมายนั้น ขณะนี้ต้องนำหลักฐานทางวิศวกรรมที่ วสท.ได้มาวิเคราะห์ร่วมกับการตรวจสอบหลักฐานการก่อสร้างว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประสาท สามารถกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้รวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป