สหมิตรถังแก๊ส ประกาศงบ 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรโต 32% ขณะที่ยอดขายไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 31% ผลดีจากต้นทุนเหล็กลดลงตามราคาตลาด บอร์ดใจป้ำประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 30 สต. ผู้บริหารหวังผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ตามความต้องการใช้ถังแก๊สทั้งใน และต่างประเทศ อีกทั้งแนวโน้มราคาเหล็กเริ่มทรงตัวทำให้ลูกค้าทยอยสั่งซื้อตามปกติ
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายใน และต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,561 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 325 ล้านบาท หรือ 26% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 284 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือ 33%
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2559 มียอดขายรวมอยู่ที่ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 572 ล้านบาท เนื่องจากงวดนี้ปริมาณขายเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเนื่องจากค่าเงินยูโรที่ผันผวนมากในช่วงต้นปี 2558 ทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการสั่งซื้อเพื่อดูสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อตามปกติแล้ว ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ประกอบกับราคาเหล็กที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อในปริมาณเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 2/2559 จำนวน 149 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท หรือลดลง 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากภาษีเงินได้ และค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารที่เพิ่มขึ้น สุทธิกับยอดขาย และอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
“ครึ่งปีหลังปีนี้ คาดว่าผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากความต้องการใช้ถังแก๊สทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังชะลอตัว หลักๆ มาจากราคาเหล็กเริ่มทรงตัว ทำให้ลูกค้าทยอยสั่งซื้อตามปกติ แต่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับทั้ง EURO และ USD อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้างในฐานะผู้ส่งออก เพราะยอดขายหลักมาจากการส่งออก 80-90%” นายสุรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท จากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียน 25 สิงหาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2559