เจริญโภคภัณฑ์อาหาร อวดรายได้จากการขายไตรมาสนี้ 116,777 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 13% และ 35% ตามลำดับ พร้อมลุยลงทุนกิจการใน 14 ประเทศ ส่งผลให้รายได้จากการขายจากกิจการในประเทศไทยมี 44,629 ล้านบาท และรายได้จากการขายจากกิจการในต่างประเทศ 72,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และ 13% ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากจีน และเวียดนาม พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 50 สต.
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ว่า ผลการดำเนินงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น ทั้งกิจการในประเทศไทย และในต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจสัตว์บกในประเทศเวียดนาม และประเทศไทย ที่พลิกฟื้นจากสถานการณ์ผลผลิตล้นตลาดของสินค้าเนื้อสัตว์ในปีที่แล้ว รวมถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์น้ำที่ฟื้นตัวจากผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโรคตายด่วน หรือ Early Mortality Syndrome (EMS) ส่งผลให้อัตรากำไรเบื้องต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจาก 13.5% เป็น 17.4% ในปีนี้ และทำให้บริษัทมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 91% แต่จากผลกระทบที่บริษัทจะต้องบันทึกรายการค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ค้างจ่าย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับรอบปี 2553-2558 เป็นวิธีรวม ซึ่งเป็นการบันทึกการเปลี่ยนแปลงเพียงครั้งเดียวในไตรมาสที่ 2 ทำให้บริษัทกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35%
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ยอดขายจะเติบโตประมาณ 10-15% จากปี 2558 สำหรับแนวกลยุทธ์ให้ความสำคัญกับการขยายตลาด และการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่ให้ความใส่ใจในสังคม และสิ่งแวดล้อมรอบด้าน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ได้มีการลงทุนเพิ่มในประเทศจีน ในเดือนพฤษภาคม และประเทศศรีลังกา ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดให้วันที่ 25 สิงหาคม 2559 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (XD วันที่ 23 สิงหาคม 2559) และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 8 กันยายน 2559