โบรกฯ ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นลำบาก จากสถานการณ์ก่อการร้าย แต่เชื่อว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งจากตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่ 3.5% แนะหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง และได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นลำบากจากการเกิดเหตุการณ์ระเบิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะกระทบการท่องเที่ยว และตลาดหุ้นโดยรวมพอสมควร แต่หากวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี หุ้นไทยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในเอเชียที่ 21% ทำให้อาจต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่มากเท่ากรณีเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว หลังจากญี่ปุ่น หยุดขยาย QE เพิ่ม ทำให้พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นถูกเทขาย และทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียอื่นที่เป็นคู่แข่งใกล้เคียงกัน คือ ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยจะต้องติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสภาพัฒน์ฯ ที่ประกาศมาที่ระดับ 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ในสหรัฐฯ เริ่มมีแรงขายทำกำไรในตลาด Wall street หลังจากหุ้นปรับตัวขึ้นหุ้นมาพอสมควร โดยตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. ออกมาทรงตัวจากเดือน มิ.ย. จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน ซึ่งส่งผลให้ความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้น้อยลง ด้านสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2/59 ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% QoQ และเพิ่มขึ้น 1.8% Yoy ด้านญี่ปุ่น รายงาน GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 0.2% QoQ ชะลอตัวลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 1.9% QoQ แต่ราคาน้ำมันที่กลับปรับตัวขึ้นมาอยู่กลางๆ ระหว่าง 40-50 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้แรงกดดันหุ้นพลังงานลดลง
ด้านกลยุทธ์การลงทุน ช่วงนี้คงต้องหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวชั่วคราว และเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง และได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ
สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น SCC ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งโดดเด่น ประกอบกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ยังน่าสนใจ ที่จะดึงดูดความสนใจกระแสเงินทุนต่างชาติที่กำลังเข้ามาหาผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจไม่เพิ่มมาตรการการเข้าซื้อพันธบัตร
“เรามองว่า SCC ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดในภูมิภาคเช่นกัน โดยเรายังคงเห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจปิโตรเคมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงสะท้อนมาจากส่วนต่างราคา (Spread) HDPE-Naphtha ที่สามารถยืนเหนือระดับ 700 ดอลลาร์ ต่อตันได้อย่างยาวนาน และมั่นคง โดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งดังกล่าวได้ถูกสะท้อนในผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2559 โต 18% และจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 8.50 บาท โดยธุรกิจปิโตรเคมีดีมาก กำไรโต 43% แต่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างยังติดลบ 11% ทำให้ทั้งกลุ่มโต 18%”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภัยแล้งในประเทศเริ่มคลี่คลายลงอย่างเป็นลำดับ ประกอบกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติ และดำเนินการอย่างมีความก้าวหน้าจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันความต้องการใช้ปูนซิเมนต์ในประเทศนับจากนี้ไป โดยเฉพาะในปีหน้า