บล.เอเชีย เวลท์ มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้สดใส แนะระวังการลงทุนก่อนลงประชามติ พร้อมมองว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง โครงการขนาดใหญ่จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยไปต่อได้
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย และไทยสัปดาห์นี้น่าจะเคลื่อนไหวดีขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาสที่ 2 ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ออกมาเป็นที่น่าผิดหวัง แต่กลับเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้น เพราะตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ในเร็วๆ นี้ ทำให้ความกังวลที่เม็ดเงินจะไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ลดน้อยลงไป และเมื่อบวกกับปัจจัย Brexit ก่อนหน้านี้ที่ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัวลงไป ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดเอเชีย รวมถึงไทย
ด้านปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะเติบโตมากกว่าในไตรมาส 1 คือ มากกว่า 3.2% บวกกับรัฐบาลเตรียมเปิดประมูลเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก น่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ส.ค. คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ด้านญี่ปุ่นธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สร้างความผิดหวังให้กับตลาด โดยแค่ขยายวงเงินซื้อ ETF แต่คงขนาดมาตรการ QQE และฐานเงิน รวมทั้งคงดอกเบี้ยติดลบเท่าเดิมเพื่อรักษาเสถียรภาพ เพราะนายกรัฐมนตรี อาเบะ ได้ประกาศมาตรการการคลังขนาดใหญ่เป็นประวัติการณ์ มูลค่า 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปก่อนหน้านั้น โดยในสัปดาห์นี้จะมีรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวออกมาถือเป็นปัจจัยบวกอย่างมาก
ทั้งนี้ หากจะวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นจะไปได้ขนาดไหนจะต้องมองลึกๆ ทั้งในส่วนของ GDP ของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่ดีนั้น เกิดจาก Inventory ที่ลดลง แต่การหดตัวของ Inventory มาเสริมในเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่โตเยอะ 4.2% หมายความว่า เศรษฐกิจภายในประเทศของสหรัฐฯ กำลังขยายตัวได้ดี และเรื่อง Inventory หลังจากหดตัวในช่วงหนึ่งแล้ว ในระยะเวลาต่อไปจะขยายตัวเยอะ เพราะฉะนั้น ตอนนี้แม้ Fed จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่หากตัวเลขเศรษฐกิจกลับมาดี สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยก็จะกลับมาอีก ด้านในประเทศเราเอง การลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด และต้องระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้จะมีปัจจัยต่างๆ ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่มองว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง โครงการขนาดใหญ่จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยไปต่อได้