“คลัง” หนุน “ธอส.” นำแนวคิดรวมกลุ่มออมเงิน จากนั้นปล่อยกู้ให้สมาชิกซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ด้าน ธอส.พร้อมนำร่องชุมชนที่มีความพร้อม เจรจาดึงเงินจากกองทุนประกันสังคมรวมกับ ธอส. หมื่นล้านบาท เน้นกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ และมีงานทำสะสมเงินออมเตรียมซื้อบ้าน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างเปิดงานสัมมนา “Bausparkassen : A Prospective Scheme Promoting Home Ownership in Thailand” จัดโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับสมาคม Bausparkassen แห่งประเทศเยอรมนี โดยระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายบ้านประชารัฐผ่าน ธอส. และธนาคารออมสิน จึงต้องการส่งเสริมให้ประชาชนสะสมเงินออมก่อนการซื้อบ้าน
รมช.คลัง ยอมรับว่า แนวคิดของเบาสปากัส ซึ่งส่งเสริมให้สมาชิกสะสมเงินออมก้อนหนึ่ง จากนั้นจึงกู้เงินจากสถาบันการเงิน “Bausparkassen” (เบาสปากันเซ่น) และเงินจากการสะสมของสมาชิกในกลุ่มประสบความสำเร็จมากในเยอรมนี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเติบโตต่อเนื่อง ทำให้มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเยอรมนี สูงถึงร้อยละ 20 และยังขยายไปยังกลุ่มประเทศอื่นทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป และจีน จึงต้องการนำมาปรับใช้กับนโยบายบ้านประชารัฐของไทย ซึ่งรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินในส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงยื่นขอสินเชื่อบ้านในชุมชนของไทย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า แนวคิดการรวมกลุ่มของสมาคม Bausparkassen แห่งประเทศเยอรมนี ส่งเสริมให้ชาวบ้านรวมกลุ่มประมาณ 10 คน จากนั้นให้สมาชิกสะสมเงินออมเข้ากลุ่ม เมื่อสมาชิกรายใดพร้อมจึงยื่นกู้เงินจากกลุ่ม โดยมีสถาบันการเงิน และสมาคม Bausparkassen เป็นตัวกลางปล่อยสินเชื่อ จึงต้องการสร้างให้คนไทยมีการวางแผน และการสร้างวินัยการออม สำหรับประชาชนที่ต้องการกู้เงินจะต้องเริ่มต้นจากการทำสัญญา “การออมเพื่อการกู้ในอนาคต” โดยจำนวนเงินออมจะสัมพันธ์กับจำนวนเงินที่ต้องการขอกู้ในอนาคต ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขอสินเชื่อจาก ธอส.
ทั้งนี้ ธอส.จึงเตรียมเจรจากับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อนำเงินจากกองทุนประกันสังคมรวมกับ ธอส.ประมาณ 10,000 ล้านบาท ทดลองนำร่องกับสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เน้นนำร่องในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่มีงานทำ และต้องการมีบ้าน เพื่อคัดเลือก จากนั้น ธอส.จะเป็นผู้พิจารณาคุณสมบัติสมาชิก โดยต้องเป็นคนมีอาชีพ รายได้ใกล้เคียงกัน เพื่อสะสมเงินเข้าในกลุ่มประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน หากใครสะสมเงินเข้ากลุ่มจำนวนมาก จะมีสิทธิกู้เงินก่อน แล้วให้สมาชิกกู้เงินจากกลุ่ม และสถาบันการเงิน นับว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำมากเพียงร้อยละ 1-2 เนื่องจากคิดค่าบริหารจัดการเพียงร้อยละ 0.5 เพิ่มจากดอกเบี้ยเงินฝากเล็กน้อย โดยมีส่วนจาก ธอส. และหน่วยงานอื่นมาปล่อยกู้เพิ่ม จึงเจรจากับกองทุนประกันสังคม เพื่อนำเงินมาใช้ปล่อยกู้เพิ่มประมาณ 10,000 ล้านบาท จากนั้นจึงขยายไปยังชุมชนอื่น หรือผู้มีอาชีพอื่น นับเป็นการระดมแหล่งทุนในการซื้อบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง ยอมรับแนวคิดดังกล่าวเหมาะสำหรับการซื้อบ้านราคา 2-3 ล้านบาทต่อหลัง
ปัจจุบัน ธอส.ให้ความสำคัญเรื่องการออมเพื่อการมีที่อยู่อาศัยในอนาคต มุ่งเน้นส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ให้กับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล จึงได้จัดทำ “โครงการ ธอส.โรงเรียนการเงิน” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และวินัยทางการเงินให้กับคนไทยที่ต้องการมีบ้าน จึงต้องการนำแนวคิดของ Bausparkassen มาพัฒนา และใช้ประยุกต์ต่อยอดรูปแบบการเงินที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ หรือกลุ่มที่อยู่ในวัยเริ่มทำงาน และสามารถส่งเสริมให้กลุ่มนี้เข้าร่วมโครงการ เพื่อปลูกฝัง และฝึกฝนวินัยการเงินผ่านการออม โดยจุดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ ระบบ Bausparkassen เป็นระบบการเงินแบบปิด (Closed System) ที่นำเงินที่ได้จากเงินออมของผู้ต้องการซื้อบ้านมาบริหารจัดการในปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบของระบบเงินกองทุน ซึ่งผู้ต้องการซื้อบ้านจะต้องทำสัญญากับ Bausparkassen ใน 3 ส่วน
คือ (1) ส่วนที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการฝาก (Savings Phase) เช่น จำนวนเงินฝาก อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาฝาก (2) ส่วนที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดสรรเงินให้กับสมาชิก (Allocation) เช่น จำนวนเงินกู้ที่จะได้รับ ราคาของที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ (3) ส่วนที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการกู้เงิน (Loan Phase) เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จำนวนเงินผ่อนชำระ ระยะเวลาผ่อน เป็นต้น ซึ่งการทำสัญญาทั้ง 3 ส่วนนี้จะต้องทำตั้งแต่เริ่มต้น และระบุอัตราดอกเบี้ยที่สัมพันธ์กัน ดังนั้น ด้วยแนวทางเช่นนี้อาจจะส่งผลให้การบริหารเงินกองทุนของ Bausparkassen มีต้นทุนต่ำกว่าระบบการเงินแบบอื่น และอาจไม่ต้องอ้างอิงกับอัตราผลตอบแทนในตลาดเงินได้ ทำให้ Bausparkassen สามารถปล่อยสินเชื่อได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด หากบริหารต้นทุนเงินฝากได้ดี รวมถึงผู้ที่ต้องการกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยสามารถรับรู้ภาระ และความสามารถในการผ่อนชำระล่วงหน้าได้อีกด้วย