ESTAR เดินหน้าก่อสร้างโครงการ “AMBER” รับรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ เชื่อหลังรถไฟฟ้าวิ่งส่งตลาดตลอดแนวสายทางคึกคัก 30-50% มั่นใจคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้ายังไงก็ขายได้
นายไพบูลย์ วงศ์จงใจหาญ รักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR กล่าวว่า บริษัทได้เร่งงานก่อสร้างโครงการ “AMBER” คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีแยกติวานนท์ เพื่อรับการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าดังกล่าว โดยโครงการ “AMBER” ได้จบงานก่อสร้างฐานรากแล้ว และกำลังดำเนินการก่อสร้างในส่วนของอาคารจอดรถและอาคารด้านหน้า ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 65% มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท โดยสาเหตุที่โครงการมีการก่อสร้างล่าช้าเนื่องมาจากในช่วงปี 2556-2557 กำลังซื้อชะลอตัวจากปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับแบบห้องชุดใหม่ให้มีระเบียงทุกยูนิต ตามความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการตลาดคอนโดฯในแนวรถไฟฟ้าดังกล่าวน่าจะคึกคักขึ้น 30-50% และจะมีการขยับขึ้นของราคาขายคอนโดมิเนียมอย่างแน่นอน โดยโครงการที่เปิดตัวใหม่ราคาขายจะเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยสถานีแยกติวานนท์เป็นพื้นที่ที่ราคาคอนโดฯ ขยับขึ้นมากที่สุด นอกจากนี้แล้ว ราคาที่ดินจะมีการปรับขึ้นอีก โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้น 10-15% ต่อปี สำหรับโครงการ “AMBER” มีจำนวน 563 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาทต่อยูนิต ขนาดตั้งแต่ 35-94 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ย 71,500 ต่อตร.ม.
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ต่อกรณีจำนวนซัพพลายที่มีมากในย่านดังกล่าว เชื่อว่าเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ จำนวนซัพพลายจะทยอยถูกดูดซับ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งเปิดให้บริการในรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง
“คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าอย่างไรก็ขายได้ ราคาไม่มีวันลงอย่างแน่นอน เพราะที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีแต่ขึ้นไม่มีลง และทำเลดังกล่าวเป็นทำเลที่จะมีการเติบโตในอนาคต เพราะจะเกิดถนนใหม่และตามมาด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่อีก ”
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้เร่งการโอนโครงการ Star View โดย ณ เดือน ก.ค. 59 มีการโอนแล้ว จำนวน 392 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 2,529 ล้านบาท จากจำนวน 556 ยูนิต มูลค่าโครงการทั้งหมดกว่า 3,500 ล้านบาท สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2559 บริษัทจะเร่งการขายและก่อสร้างโครงการ AMBER และเร่งการก่อสร้างโครงการนารา 9 ซึ่งงานก่อสร้างโครงสร้างหลักเสร็จแล้ว 100% ปัจจุบันมียอดขาย 92-95% จากจำนวน 361 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,400 ล้านบาท เพื่อรับรู้เป็นรายได้ ส่วนการพิจารณาโครงการใหม่ขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังซึ่งมองว่ายังไม่สดใสมากนัก