xs
xsm
sm
md
lg

ปูนใหญ่ โกยกำไรเฉียด 3 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปูนซิเมนต์ไทย กวาดกำไรงวดนี้ 29,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน มั่นใจตัวเลขกำไรปีนี้เติบโตต่อเนื่อง แม้สวนทางยอดขายตกเหตุราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับลด อีกทั้งธุรกิจปูนซิเมนต์แข่งเดือด และความต้องการใช้ต่ำจากที่ประเมินไว้ ส่งผลให้รายได้ครึ่งปีแรกติดลบ 2% คาดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.6 แสนล้านบาท เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง พร้อมรุกสินค้า HVA เพิ่มรายได้ชดเชยรายได้เคมีภัณฑ์ตกต่ำในอนาคต ประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีแรกหุ้นละ 8.50 บาท

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า กำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่ทำไว้ 4.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกกำไรสุทธิดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้น ขณะที่รายได้พลาดจากคาดไว้ ซึ่งต้นปีคาดการณ์ไว้ว่า รายได้จะเติบโต 3-5 % แต่จากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับลดลงมากกว่า 10% ตามราคาแนฟทา และราคาน้ำมัน ส่งผลให้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกติดลบไป 2% จึงคาดว่ารายได้ปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำไว้ 4.6 แสนล้านบาท

“ราคาสินค้าแปรผันไปจากที่คิดไว้ และสินค้าของเราก็แปรตามราคาตลาดโลก ทำให้รายได้ครึ่งปีแรกติดลบ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น และเชื่อว่าราคาเคมีภัณฑ์น่าจะยังไปได้ แม้ว่าราคาจะผันผวน และประเมินยากจากราคาน้ำมันโลก และอื่นๆ”

ขณะที่โครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ ในเวียดนาม คาดว่าจะมีข้อสรุปในสิ้นปีนี้ พร้อมกับเดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่องในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนที่ปีนี้ตั้งไว้ 5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งในครึ่งปีหลังจะปิดซ่อมบำรุงโรงของบริษัท ROC เป็นเวลา 40 วัน ในเดือน พ.ย. ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ลดลง

นายรุ่งโรจน์ กล่าวถึงความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปีนี้ เติบโต 1% จากปีก่อนที่ไม่โต ซึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้ของภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งต้องการใช้ปูนลดลงจากที่คาดการว่าทั้งปีจะโต 3-5% ขณะที่ความต้องการใช้ปูนของภาคเอกชนครึ่งปีหลังจะยังไม่เพิ่มขึ้น จากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังทำให้ความต้องการลดลง ทำให้ยอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศปีนี้คาดเติบโตราว 1% จากปีก่อนที่ความต้องการใช้ 16 ล้านตัน กอปรกับการแข่งขันรุนแรงด้านราคาด้วย ส่วนยอดการส่งออกปูนของบริษัทปีนี้ คาดว่าจะมากกว่า 4 ล้านตัน ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 4.5 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เพราะโรงปูนในต่างประเทศเริ่มผลิต

“ปีหน้าจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดประมาณ 30 ล้านตัน แบ่งเป็นในประเทศ 23 ล้านตัน และในต่างประเทศ 4 แห่ง รวม 6.3 ล้านตัน จากโรงปูนที่กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และอินโดนีเซีย”

สำหรับธุรกิจเคมีภัณฑ์ คาดว่าน่าจะใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นได้อีกใน 2-3 ปีข้างหน้า และบริษัทได้มองหาการสร้างรายได้มาทดแทน นั่นคือ จากโครงการต่างๆ ที่ไปลงทุนไว้ และการเน้นไปยังสินค้า HVA ที่ยังมียอดขายที่ดีต่อเนื่อง

ล่าสุด SCC ได้ให้บริษัท เอซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ในเครือเอสซีจี ได้เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นของบริษัท จัมโบ้บาจส์ แอนด์ ทักส์ (จัมโบ้บาจส์) เพิ่มอีก 10% จากเดิม 45% เป็น 55% คาดการซื้อขายหุ้นจะสำเร็จในเดือน ส.ค.59 ซึ่งจัมโบ้บาจส์ ในปี 58 มียอดขาย 886 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 1,374 ล้านบาท
 
พร้อมกันนี้ SCC แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่ามีรายได้จากการขาย 108,874 ล้านบาท ลดลง 4 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสำหรับงวด 16,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ขณะงวด 6 เดือนแรก มีรายได้จากการขาย 218,872 ล้านบาท ลดลง 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ อีกทั้งธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีการแข่งขันที่รุนแรง และความต้องการของตลาดภายในประเทศชะลอตัว ส่วนกำไรสำหรับงวด 29,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเคมีภัณฑ์มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากต้นทุนราคาวัตถุดิบที่ลดลง

ขณะที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 8.50 บาท และกำหนดจ่าย 25 ส.ค.59 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น