xs
xsm
sm
md
lg

เอสซีจีกวาดรายได้ Q1 ทะลุแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เอสซีจี กวาดรายได้ไตรมาสแรก 109,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน ขณะมีกำไร 13,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงนี้ปีก่อน ผลจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งยอดขายสินค้า HVA เพิ่ม คาดยอดขายปูนเพิ่ม ขณะโรงงานปูนในอาเซียนเดินเครื่องเกือบครบรองรับป้อนตลาดแถบนี้ มองหาพันธมิตรร่วมทุนขยายงาน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งว่า งบการเงินรวมไตรมาสแรกของปี 59 กลุ่มบริษัทเอสซีจี มีรายได้จากการขาย 109,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะมีกำไร 13,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงนี้ปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ ขณะที่มีรายได้จากการส่งออก 29,570 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของยอดขายรวมลดลง 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยไตรมาสแรกปีนี้ เอสซีจีมีรายได้จากฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน และจากการส่งสินค้าออกไปขาย 24,396 ล้านบาท คิดเป็น 23% ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน ซึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน 12,586 ล้านบาท หรือ 12% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้จากการส่งออกไปยังอาเซียน 11,810 ล้านบาท หรือ 11% ของรายได้รวมลดลง 14% สำหรับรายได้ไตรมาสแรก แยกตามธุรกิจแบ่งเป็น เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 45,880 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 3,290 ล้านบาท ลดลง 8% ผลจากค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

ขณะที่ธุรกิจ เอสซีจี เคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 47,810 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรงวดนี้ 9,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลประกอบการธุรกิจร่วมปรัวตัวดีขึ้น กอปรกับราคาวัตุดิบที่ลดลง ขณะโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ ในเวียดนาม อยู่ระหว่างการหาผู้ร่วมทุนใหม่

ส่วนเอสซีจี แพคเกจจิ้ง มีรายได้จากการขาย 18,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 1,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และเพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการจัดการต้นทุน และผลประกอบการที่ดีขึ้นของสินค้ากลุ่มนี้

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า จากการพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม หรือ HVA ส่งผลให้เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม 42,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน คิดเป็น 39% ของยอดขายรวม ด้วยการใช้งบพัฒนากว่า 900 ล้านบาท และปีนี้ตั้งงบวิจัยและพัฒนา 1% ของยอดขายรวม

สำหรับทิศทางความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปีนี้เติบโต 3-5% ซึ่งไตรมาส 1 ปีนี้ตลาดปูนซีเมนต์โดยรวมในประเทศขยายตัวราว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากการขยายการลงทุนของภาครัฐ คิดเป็น 20% ขณะในส่วนที่อยู่อาศัยติดลบ 2% แต่มั่นใจว่าโครงการรถไฟฟ้าที่เดินหน้า การก่อสร้างที่อยู่อาศัยก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ขณะการลงทุนในประเทศแถบอาเซียน ขณะนี้โรงงานปูนซีเมนต์ในพม่าคาดจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ไตรมาส 3 ปีนี้ และโรงงานปูนซีเมนต์ใน สปป.ลาว คาดเริ่มเดินสายการผลิตในกลางปี 60 ส่วนโรงงานปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซีย และกัมพูชา ขณะนี้เริ่มผลิตแล้ว ซึ่งโครงการลงทุนเหล่านี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการขยายตัวของบริษัทในอาเซียน และยังคงมองหาขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เน้นการเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่น

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 5 หมื่นล้าน ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้ใช้งบไปแล้วเกือบหมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 69% เอสซีจี เคมีคอลส์ 14% เอสซีจี แพคเกจจิ้ง 13% และส่วนงานอื่นๆ 4% ซึ่งในปี 58 บริษัทใช้งบลงทุนไป 4.6 หมื่นล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น