อิออนฯ เตรียมออกหุ้นกู้ 8 พันล้านบาท แบ่งเป็น 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสนอขายแบงก์ญี่ปุ่น และอีก 3 พันล้านบาทเสนอขายนักลงทุนในประเทศ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้รีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้ที่ครบกำหนด และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน พร้อมแจ้งงบไตรมาสแรกปีนี้กำไรลดเหลือ 515.85 ล้านบาท
นายคิโยะยะซึ อะซะนุมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า บอร์ดมีมติให้ออก และเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ วงเงินของหุ้นกู้ไม่เกิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ ซึ่งจะเสนอขายธนาคารญี่ปุ่น ส่วนอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตามตลาด ณ วันที่เสนอขาย และออกหุ้นกู้
นอกจากนี้ ยังออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตามตลาด ณ วันที่เสนอขาย และออกหุ้นกู้อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้เพื่อเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัดภายในประเทศ และ/หรือนักลงทุนสถาบัน และ/หรือประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ รีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้ที่ครบกำหนด และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน
พร้อมกันนี้ AEONTS ยังแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 59 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 515.85 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 523.52 ล้านบาท หรือลดลงเกือบ 2% โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวม 4,330 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 224 ล้านบาท หรือ 5% จากไตรมาสนี้ของปีก่อน เนื่องจากปริมาณลูกค้าใช้บริการสินเชื่ออยู่ที่ 3.53 ล้านรายต่อเดือน และมีสมาชิก 2.25 ล้านคน แบ่งเป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ 32% ที่เหลือเป็นลูกค้าในต่างจังหวัด
โดยรายได้บัตรเครดิตคิดเป็น 51% ของยอดการให้สินเชื่อรวม ซึ่งรายได้จากบัตรเครดิตงวดนี้มี 1,581 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้่น 5% จากงวดนี้ปีก่อน หรือคิดเป็น 37% ของรายได้รวม ส่วนสินเชื่อเงินกู้ไตรมาสแรกปีนี้มียอดสินเชื่อเงินกู้ 43% ของยอดการใช้สินเชื่อรวม ซึ่งมีรายได้ 2,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145 ล้านบาท หรือ 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 52% ของรายได้รวม ขณะที่มียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศ และสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องไฟฟ้ารวมทั้งอื่้นๆ ใกล้เคียงกับไตรมาสนี้ปีก่อน ขณะที่มีรายได้อื่น 300 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ และต้นทุนทางการเงินในไตรมาสแรก ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 3,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท หรือ 6% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการบริการเพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดการเพิ่มสวัสดิการพนักงาน และการเพิ่มขึ้นของพนักงานบริษัทย่อยทั้งใน และต่างประเทศ ส่วนหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสแรกปีนี้มียอด 1,240 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% ผลจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ขณะมีต้นทุนทางการเงินในไตรมาสนี้ 552 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อน เนื่องจากการจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดลงของอัตราดอกเบี้ย กอปรกับบริษัทได้มีนโนบายบริหารความเสี่ยงในด้านสภาพคล่อง และความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
นายคิโยะยะซึ อะซะนุมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า บอร์ดมีมติให้ออก และเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ วงเงินของหุ้นกู้ไม่เกิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ ซึ่งจะเสนอขายธนาคารญี่ปุ่น ส่วนอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตามตลาด ณ วันที่เสนอขาย และออกหุ้นกู้
นอกจากนี้ ยังออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตามตลาด ณ วันที่เสนอขาย และออกหุ้นกู้อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้เพื่อเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัดภายในประเทศ และ/หรือนักลงทุนสถาบัน และ/หรือประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ รีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้ที่ครบกำหนด และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน
พร้อมกันนี้ AEONTS ยังแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 59 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 515.85 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 523.52 ล้านบาท หรือลดลงเกือบ 2% โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวม 4,330 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 224 ล้านบาท หรือ 5% จากไตรมาสนี้ของปีก่อน เนื่องจากปริมาณลูกค้าใช้บริการสินเชื่ออยู่ที่ 3.53 ล้านรายต่อเดือน และมีสมาชิก 2.25 ล้านคน แบ่งเป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ 32% ที่เหลือเป็นลูกค้าในต่างจังหวัด
โดยรายได้บัตรเครดิตคิดเป็น 51% ของยอดการให้สินเชื่อรวม ซึ่งรายได้จากบัตรเครดิตงวดนี้มี 1,581 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้่น 5% จากงวดนี้ปีก่อน หรือคิดเป็น 37% ของรายได้รวม ส่วนสินเชื่อเงินกู้ไตรมาสแรกปีนี้มียอดสินเชื่อเงินกู้ 43% ของยอดการใช้สินเชื่อรวม ซึ่งมีรายได้ 2,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145 ล้านบาท หรือ 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 52% ของรายได้รวม ขณะที่มียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศ และสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องไฟฟ้ารวมทั้งอื่้นๆ ใกล้เคียงกับไตรมาสนี้ปีก่อน ขณะที่มีรายได้อื่น 300 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ และต้นทุนทางการเงินในไตรมาสแรก ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 3,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท หรือ 6% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการบริการเพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดการเพิ่มสวัสดิการพนักงาน และการเพิ่มขึ้นของพนักงานบริษัทย่อยทั้งใน และต่างประเทศ ส่วนหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสแรกปีนี้มียอด 1,240 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% ผลจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ขณะมีต้นทุนทางการเงินในไตรมาสนี้ 552 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อน เนื่องจากการจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดลงของอัตราดอกเบี้ย กอปรกับบริษัทได้มีนโนบายบริหารความเสี่ยงในด้านสภาพคล่อง และความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
