xs
xsm
sm
md
lg

ดิ เออเบิ้ล ยึดพื้นที่พหลฯ-อารีย์ผุดแซฟวี่ คอนโด รุกตลาดเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมภพ วาณิชเสนี
ดิเออเบิ้ลฯ เดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์ในกรุง ล่าสุด ซื้อบ้านเก่าในซอยพหลโยธิน 2 พัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ “แซฟวี่ คอนโดมิเนียม” มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท ภายใน 1 เดือน กวาดยอดขายแล้ว 70% สิ้นปีจ่อขึ้นโรงแรมบูทีคย่านพัทยา จำนวน 60 ห้อง

นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิเออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “ดิ เออเบิ้ล” เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมายาวนานกว่า 10 ปี และเน้นทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา เป็นเป้าหมายหลัก โดยมีโครงการในพัทยาถึง 7 โครงการ ซึ่งทุกๆ โครงการที่พัฒนาจะได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติในสัดส่วน 70% อีก 30% เป็นลูกค้าคนไทย แต่หลังจากที่พัทยาได้รับผลกระทบจากกลุ่มลูกค้ารัสเซียที่หายไป และปัญหาค่าเงินรูเบิลนั้น ทำให้ฐานลูกค้าส่วนใหญ่แล้วเป็นคนไทยเข้ามาแทนที่เป็น 40% และ 60% เป็นลูกค้าต่างชาติ

ปัจจุบัน คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในพัทยามีประมาณ 15,000 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขค่อนข้างเยอะ และต้องอาศัยการระบายสต๊อกที่มีอยู่อีก 2-3 ปีถึงจะหมด ดังนั้น บริษัทจึงได้ขยายฐานการพัฒนาโครงการเข้ามาในกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้พัฒนาคอนโดฯ ย่านแบริ่ง มาก่อน เช่น โครงการ The Gallery Condominium สุขุมวิท 107 สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนโครงการ The Urban Attitude Bearing 14 ขณะนี้มียอดขายแล้ว 50%

โดยในปีนี้บริษัทมีแผนการขยายการลงทุนในส่วนของกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น ล่าสุด อยู่ระหว่างการเปิดขายคอนโดมิเนียมย่านถนนพหลโยธินซอย 2 “แซฟวี่ คอนโดมิเนียม” บนพื้นที่ 201.4 ตารางวา เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 66 ยูนิต ขนาดห้อง 23-69 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 2.49-10 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 1.25-1.4 แสนบาท ปัจจุบัน มียอดขายแล้ว 70% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่เองเป็นหลัก ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ก่อนสิ้นปี 2559

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพัฒนาโรงแรมบูทีคในเมืองพัทยา เป็นโรงแรม 4 ดาว ประมาณ 60 ห้อง คาดว่าอัตราค่าเช่าต่อคืนอยู่ที่ 3,500-5,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางเชนโรงแรม ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินในพัทยารอการพัฒนาอีก 3 แปลงด้วยกัน ประกอบด้วย ที่ดินในเมืองพัทยา 1 แปลง และติดชายหาด 2 แปลง โดยจะเป็นแผนในการพัฒนาโครงการในปีหน้า

สำหรับนโยบายการพัฒนาโครงการของบริษัทนั้นยังคงเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ปีละ 1-2 โครงการ ขนาดโครงการไม่ใหญ่ บนที่ดิน 200-300 ตารางวา หรือถ้าเป็นมูลค่า ประมาณ 300 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ ไว้ที่ 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถซื้อที่ดินรอการพัฒนาโครงการได้ 1-2 แปลง โดยจะเน้นทำเลย่านแนวรถไฟฟ้า หรือห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 1 กิโลเมตร

นายสมภพ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้นำโครงการที่อยู่ระหว่างการขายออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศด้วย เบื้องต้น จะจัดตั้งสำนักงานขายที่ฮ่องกง โดยการเช่าพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพื้นที่ โดยจะใช้เวลาอีก 3-4 เดือน คาดว่าจะเปิดสำนักงานขายได้

ปัจจุบัน มีโครงการที่สร้างเสร็จ และพร้อมเข้าอยู่ ประกอบด้วย เดอะ แกลลอรี่ คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 107, แอคควา คอนโดมิเนียม จอมเทียน พัทยา ส่วนโครงการที่เปิดขาย และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ แอราส คอนโดมิเนียม ติดหาดจอมเทียน, แอดติจูด พัทยา และแอทติจูด แบริ่ง โดยในปี 2559 ตั้งเป้ารายได้ในไว้ที่ 840 ล้านบาท จากยอดขายโครงการทั้งสิ้น 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันสามารถทำรายได้แล้ว 400 กว่าล้านบาท

“เมื่อ 2 ปีที่แล้วที่เราได้เปิดโครงการ เดอะ แกลลอรี่ คอนโดมิเนียม ในซอยสุขุมวิท 107 แบริ่ง บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในการออกจากกรอบเดิมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา ปัจจุบัน โครงการ เดอะ แกลลอรี่ แบริ่ง สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับที่เราเริ่มเปิดขายโครงการ แอตติจูด คอนโดมิเนียม แบริ่ง 14 และได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 50% จากที่เราประสบความสำเร็จจาก 2 โครงการ ด้วยวิสัยทัศน์การสร้างคอนโดมิเนียมแบบเน้นที่โครงสร้างการออกแบบที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย แซฟวี่ คอนโดมิเนียม จึงพร้อมจะเป็นทางเลือกใหม่ในทำเลใจกลางกรุงเทพมหานคร ให้แก่ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความพิเศษโดดเด่น”

โดยปัจจุบัน มีโครงการที่สร้างเสร็จ และพร้อมเข้าอยู่ ได้แก่ เดอะ แกลลอรี่ คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 107, แอคควา คอนโดมิเนียม, จอมเทียน พัทยา โครงการที่เปิดขาย และกำลังก่อสร้าง ได้แก่ แอราส คอนโดมิเนียม ติดหาดจอมเทียน พัทยา, แอทติจูด พัทยา และแอทติจูด แบริ่ง โดยตลอดปี 2559 เราตั้งเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทไว้ที่ 840 ล้านบาท จากยอดขายโครงการทั้งสิ้น 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างรายได้รวม 40% จากเป้าที่ตั้งไว้


กำลังโหลดความคิดเห็น