xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ มองหุ้นกลุ่มอสังหาฯ เริ่มโดดเด่น และกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.ทรีนีตี้ มองหุ้นกลุ่มอสังหาฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงขาขึ้น Q2/59 เผยผลงานโดดเด่น และหมดห่วงภาษีที่ดินฉบับใหม่ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Property) เริ่มมีการกลับตัวเป็นขาขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีแรงกดดันจากยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง (ไม่นับรวมโครงการบ้านประชารัฐ) ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ด้วยหุ้นกลุ่มนี้มีความน่าสนใจสำหรับลงทุนจากอัตราการจ่ายเงินปันผล (High dividend yield) ที่สูงกว่ากลุ่มธุรกิจอื่น ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ที่ต่ำ และประเด็นภาษีที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างฉบับล่าสุดที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 2560 มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการน้อยกว่าที่ตลาดเป็นกังวล จึงเป็นแรงผลักดันให้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ยังคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2559 ที่กำลังจะออกมาจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เสร็จสิ้นไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคาดว่ายอดโอนในไตรมาส 2/2559 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งการเปรียบเทียบต่อไตรมาส และเปรียบเทียบต่อปี จากการสอบถามผู้ประกอบการในตลาดส่วนมากจะทำการเร่งโอนโครงการในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนมาตรการเสร็จสิ้น โดยที่มาตรการลดค่าโอน และค่าจดจำนองลงเหลือ 0.01% มีผลดีต่อโครงการที่มีมูลค่าขายเกินกว่า 1 ล้านบาทต่อยูนิต เนื่องจากสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ซื้อได้มาก และทางด้านผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์จะเป็นกลุ่มที่มีโครงการพร้อมโอน เช่น PS LH AP และ QH

ด้านข้อมูลจาก เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) ที่ได้ประมาณการขนาดของตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2559 อยู่ที่ 3.83 แสนล้านบาท เติบโตราว 8% จากมูลค่า 3.54 แสนล้านบาท ในปี 2558 โดยที่ในไตรมาสที่ 1/2559 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 8.59 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็น 23% ของประมาณการปีนี้ โดยที่โครงการทาวน์โฮมเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตมากที่สุด เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดของทาวน์โฮมมากที่สุด ได้แก่ PS อยู่ที่ 30% และ QH ที่กำลังขยายฐานไปยังตลาดทาวน์โฮมมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความต้องการอยู่อาศัยที่แท้จริง (Real Demand) อยู่มาก และมีการเก็งกำไรต่ำกว่ากลุ่มของคอนโดมิเนียม

นอกจากนี้ ยังคงปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวของยอดขายหลายปัจจัย ได้แก่ การขยายตัวของรถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยเฉพาะสายสีม่วง ที่จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2559 จะเป็นการช่วยกระตุ้นการมองหาคอนโดมิเนียมในบริเวณนั้น และผู้ประกอบการเองทยอยเปิดตัวโครงการใหม่หลังมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์หมดลง

โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีโครงการเปิดตัวใหม่ 21 โครงการ นับเป็นเท่าตัวหากเทียบกับช่วงเดือนเมษายน 2559 รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เป็นการลดต้นทุนการกู้ยืม และปีนี้เป็นปีที่มาตรการซื้อรถคันแรกจะจบลง จึงมองว่าอาจมีความต้องการสำหรับที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงผลระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ผ่านออกมาว่า จะมีผลกระทบต่อความต้องการโครงการคอนโดมิเนียมระยะสั้น โดยกฎหายภาษีใหม่นี้มีอัตราการเก็บภาษีที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ที่แทบจะไม่มีนัยสำคัญ และหากมองในอีกแง่มุมการเก็บภาษีที่ดินนี้เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากจะมีการขายที่ดินสู่ตลาดมากขึ้น และเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PS LH และ QH จากการที่เป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง โดย LH และ QH มีประเด็นเพิ่มเติมจากการบันทึกกำไรพิเศษจากกรณี LHBANK ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้น และบันทึกราวไตรมาส 3/2559
กำลังโหลดความคิดเห็น