กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อังคาร 7 มิ.ย.นี้ สั่งกรมธนารักษ์เร่งประเมินราคาก่อนประกาศใช้ 1 ม.ค.60 ย้ำบ้านราคาต่ำกว่า 50 ล้านบาท ไม่เสียภาษีที่ดิน ยอมรับที่ผ่านมา มักจะถูกโจมตีตลอดว่าแกล้งคนจนทำไม มั่นใจโครงสร้างภาษีใหม่ครั้งนี้ดันรายได้เพิ่ม 6 หมื่นล้าน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงการคลังได้ศึกษาการยกร่างกฎหมายลูกเพิ่มเติมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จึงเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่าง พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในวันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2559 นี้ โดยแบ่งการจัดเก็บภาษีออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทแรก จัดเก็บภาษีจากที่อยู่อาศัย โดยบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป และผู้มีที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป ต้องเสียภาษีตามสัดส่วนที่กำหนดในกฎหมายลูก โดยกำหนดเพดานสูงสุดร้อยละ 0.5 ของราคาบ้าน
ประเภทที่ 2 คือ กลุ่มพื้นที่เกษตรกรรม กำหนดอัตราเพดานสูงสุดที่ร้อยละ 0.2 ปรเภทที่ 3 จัดเก็บภาษีจากอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหรรม กำหนดอัตราเพดานสูงสุดร้อยละ 2 และประเภท 4 จัดเก็บภาษี จากกลุ่มที่ดินรกร้าง ว่างเปล่า และไม่ใช้ประโยชน์ ในช่วงปีที่ 1-3 ยังเป็นช่วงให้ปรับตัวจัดเก็บเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นยังไม่ได้ทำประโยชน์ในปีที่ 4-6 จัดเก็บเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำหนดอัตราเพดานสูงสุดร้อยละ 5 ของราคาที่ดิน
สำหรับแนวทางการจัดเก็บภาษีได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดเก็บภาษี ยืนยันว่า รัฐไม่มีปัญหาเงินคงคลัง ส่วนอัตราภาษีจัดเก็บจริงทยอยจัดเก็บในช่วงเริ่มต้น แต่ไม่ชนเพดานที่กำหนดไว้ และจัดเก็บแบบอัตราก้าวหน้า หรือขั้นบันได ต้องให้ ครม.พิจารณา หลังจากนั้นจะเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาขั้นต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560
ทั้งนี้ คาดว่าในปีแรกที่มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะมีรายได้เข้าท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็น 6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันจัดเก็บรายได้ภาษีท้องถิ่นอยู่ที่ 2-3 หมื่นล้านบาท
“ที่ผ่านมา เราพยายามผลักดันแต่ก็จะถูกโจมตีตลอดว่าจะแกล้งคนจนทำไม แต่ในครั้งนี้เราเริ่มตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป คนที่มีบ้านราคาดังกล่าวเชื่อว่าไม่มีทางจนแน่นอน ใครที่มีบ้านหลังแรกต่ำกว่า 50 ล้านบาทก็ได้รับการยกเว้นไป แต่หากมี 2 หลังจะต้องเสียตั้งแต่บาทแรกทันที”
นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณางบประมาณสำหรับมอบหมายให้กรมธนารักษ์สำรวจ และประเมินข้อมูลของราคาที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ เพื่อรองรับในการใช้เป็นฐานจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าในปีแรกที่มีกาารจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน อปท.จัดเก็บรายได้ภาษีท้องถิ่นอยู่ที่ 20,000-30,000 ล้านบาท