ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดที่ประชุม กนง.มีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ในการประชุม 22 มิ.ย.นี้ เพื่อรอประเมินสถานการณ์ตลาดเงินโลก หลังผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักร ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป อาจแปรผันไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามหลายด้าน
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องน่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สนับสนุนให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ร้อยละ 1.50 โดยเครื่องชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงต้นไตรมาส 2/2559 ยังคงให้ภาพการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยเฉพาะการขยายตัวของรายจ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทน และกึ่งคงทน ตลอดจนสัญญาณที่เริ่มกลับมาเป็นบวกของรายได้เกษตรกร ขณะที่มองไปข้างหน้าการเร่งลงทุน และการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมทั้งแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวก็คงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนโมเมนตัมการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี และทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถประคองการขยายตัวภาพรวมปีนี้ไว้ได้ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ซึ่งน่าจะสอดคล้องต่อระดับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ มองว่า กนง.น่าจะต้องการรอประเมินสถานการณ์ของตลาดการเงินโลก ภายหลังการลงประชามติของสหราชอาณาจักรเรื่องการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) วันที่ 23 มิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตาม ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.ระยะต่อไปอาจแปรผันไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามหลายด้าน ได้แก่ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการลงประชามติการเป็นสมาชิกอียูของสหราชอาณาจักร ซึ่งหากผลออกมาว่า สหราชอาณาจักรตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป “Leave” ก็อาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลก รวมทั้งอาจส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรป และสหราชอาณาจักร และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจเผชิญต่อความไม่แน่นอนมากขึ้น