หุ้นปิดครึ่งวันเช้าร่วงเกือบ 20 จุด หนักว่าตลาดในภูมิภาค คาดต่างชาติขายลดความเสี่ยงจากความวิตกเรื่อง Brexit ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ และยังกังวลต่อกำไรที่อาจจะลดลงของกลุ่มแบงก์ จากกรณี PromptPay ซึ่งอาจกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (16 มิ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,415.65 จุด ลดลง 19.24 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.34% มูลค่าการซื้อขาย 24,463.25 ล้านบาท ต่างชาติขายลดความเสี่ยงเพื่อลงดูการลงประชามติของอังกฤษเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา รวมถึงยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และแบงก์ออกมาถ่วงตลาดด้วย
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรง คาดว่าจะรับแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ หลังจากอยู่นิ่ง ๆ มาหลายวัน อาจตัดสินใจขายลดความเสี่ยงก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ผลการทำประชามติสถานภาพของอังกฤษในสหภาพยุโรป (อียู)
นอกจากนี้ แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมยังเผชิญปัจจัยกดดันเฉพาะกลุ่ม อย่างกลุ่มแบงก์ เป็นประเด็นการนำระบบ “พร้อมเพย์” (PromptPay) มาใช้กระทบต่อกำไรโดยรวม ส่วนกลุ่มสื่อสาร จากการประชุมนักวิเคราะห์เห็นว่า แนวโน้มรายได้จะหดตัวในไตรมาส 2/59
ส่วนภาพรวมการเทรดในภาคบ่ายวันนี้ ประเมินว่าดัชนีฯ อาจมีลุ้นรีบาวนด์กลับในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425 จุด
ด้าน นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ โดยเฉพาะกลุ่ม TIP ยังอยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นไทย โดยตลาดบ้านเราเจอแรงขายออกมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ภายหลังจากที่สต๊อกน้ำมันในสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าผิดคาดจากที่นักลงทุนได้เก็งไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงขายออกมาเพื่อปิดสถานะ (position) ไปก่อน
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังมีความไม่แน่นอนจากเรื่องที่อังกฤษจะยังคงเป็นสมาชิกอียูต่อไปหรือไม่ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยโดยตรง แต่ก็อาจมีผลเกี่ยวพันกับ Fund Flow ที่ไหลเข้า-ออกได้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธีรวุฒิ กล่าวว่า หากแรงขายหมดไปแล้วในช่วงบ่ายตลาดฯ ก็มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์ แต่โดยรวมตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
