หุ้นปิดร่วง 23 จุด ตามตลาดในต่างประเทศ คาดเป็นการขายจากนักลงทุนต่างประเทศที่ตัดสินใจขายลดความเสี่ยงก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ผลการทำประชามติสถานภาพของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่โหมดการพักฐาน
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (16 มิ.ย.) ปรับตัวลงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ก็ติดลบ โดยเมื่อเทียบกับตลาดในกลุ่ม TIP จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นไทยแย่กว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ที่ทรงตัว ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ อยู่ในแดนบวก
ทั้งนี้ เป็นผลจากความกังวลการทำประชามติว่าอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ (Brexit) ซึ่งกดดันตลาดไปทั่วโลก และตลาดหุ้นก็ไม่ชอบความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนกลุ่มแบงก์ก็มีปัจจัยกดดันจากเรื่องรายได้ค่าธรรมเนียมที่อาจได้รับผลกระทบจากบริการ Prompt Pay ส่วนตลาดบ้านเราก็ได้ปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
ด้าน นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง คาดว่าจะรับแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศที่ตัดสินใจขายลดความเสี่ยงก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ผลการทำประชามติสถานภาพของอังกฤษว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา รวมถึงยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และแบงก์ออกมาถ่วงตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,411.19 จุด ลดลง 23.70 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.65% มูลค่าการซื้อขาย 46,764.43 ล้านบาท
ด้านสัดส่วนการลงทุนแยกตามประเภทผู้ลงทุน มีดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 3,195.22 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,224.20 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 967.34 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,386.77 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) มองว่า ตลาดฯ คงจะยังพักฐานไปอีกสักพัก พร้อมให้แนวรับ 1,404-1,402 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,426 จุด
