เป็นข่าวกระหึ่มกันอีกครั้งกับหุ้นเจ้าปัญหาที่มือชื่อย่อขึ้นต้นด้วยตัว P
การจัดประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2 ที่ยังคงมีผลเหมือนเดิม คือ ไม่สามารถจัดประชุมได้ เนื่องจากความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ผู้ติดตามข่าวเรื่องนี้มาตลอดอาจจะพอทราบของต้นเหตุของการขัดแย้งนี้ ว่า มาจากความไม่โปร่งใสของกลุ่มผู้บริหาร
บริษัทมีทุนจดทะเบียนหลายแสนล้านบาท แต่ไม่เคยทํากําไร ไม่เคยมีการจ่ายปันผล มีผลประกอบการขาดทุนมาโดยตลอด และต้องเพิ่มทุนตลอดเวลา โดยการเพิ่มทุนก็เป็นการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ราคาตํ่ากว่าตลาด เอาเปรียบรายย่อยมาโดยตลอด
เปลี่ยนชื่อบริษัท เปลี่ยนคณะผู้บริหารอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่คงเดิมไม่มีเปลี่ยนคือ พฤติกรรมที่มุ่งจะเอาเปรียบรายย่อยอยู่ตลอดเวลา แต่รายย่อยที่ถือหุ้นตัวนี้ดูเหมือนจะมีการรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง
จากข่าวที่ออกก็เห็นได้ว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยจะพยายามต่อสู้ และใช้สิทธิไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นหนทางที่เดียวดายเอามากๆ เพราะโดนลูกตุกติกของทางกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ตลอด และส่วนที่แย่สุด คือ ไม่มีความช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานกํากับที่เกี่ยวข้อง
และยิ่งไปกว่านั้น ในบางครั้งความผิดกลับถูกป้ายกลับไปให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยว่าเป็นฝ่ายที่ชั่วร้าย ข่มขู่ผู้บริหาร ป่วนการประชุม โดนเอาเปรียบ ไม่มีคนช่วย แถมโดนใส่ร้าย สิ่งเหล่านี้มันควรจะเป็นชะตากรรมของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างนั้นหรือ
เจตนาไม่ดีของกลุ่มผู้บริหารของหุ้นตัวนี้ไม่ต้องใช้ผู้มีประสบการณ์ หรือผู้เชี่ยวชาญมาเป็นคนดูเลย เพราะคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ ว่าคนทํานั้นมีเจตนาเช่นไร
ซื้อที่แพงกว่าราคาตลาดหลายเท่าอ้างว่าจะเอามาทําโครงการแล้วก็ไม่เคยได้ทํา ซื้อหุ้นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรต่อธุรกิจของตัวเองมาแล้วขายขาดทุนหลายร้อยล้านภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ดูกันง่ายๆ แบบนี้ ถ้าบอกว่ายังไม่รู้ หรือดูไม่ออกกันอีกก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรแล้ว
คิดเอาจากสามัญสํานึก มันมีด้วยเหรอครับผู้บริหารระดับบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่จะโง่ได้ระดับนี้ หน่วยงานกํากับที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อตลาดหลักทรัพย์ ควรเลิกหาข้ออ้างเพื่อจะลอยตัวจากปัญหา และมาแก้ปัญหาหุ้นตัวนี้อย่างจริงจังเสียที
ไม่ต้องรอรายย่อยมาร้องหรอกนะครับ มันควรจะเป็นการเริ่มจากหน่วยงานกํากับเอง ที่สํานึกในหน้าที่ และลุกขึ้นมาดูแลปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย อย่าให้ใครต้องมาสบประมาทเลยนะครับ ว่าหน่วยงานกํากับตลาดหลักทรัพย์ สุดท้ายก็แค่เสือกระดาษ และที่เป็นได้ดีสุดก็ได้แค่ลูกไล่ของพวกเก็งปั่นหุ้นรายใหญ่
ยังหวังว่าจะเห็นหน่วยงานกํากับตลาดหลักทรัพย์ ทําหน้าที่ของตนเองเพื่อปกป้องนักลงทุนรายย่อยนะครับ
รัฐบูรพา