ไม่รู้ว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีจุดยืนอย่างไรต่อการรับบริษัทจดทะเบียนใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น จะยังเน้นในเชิงปริมาณต่อไป หรือปรับนโยบายหันมาเน้นในเชิงคุณภาพมากขึ้น
เพราะนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้ง แสดงความภูมิอกภูมิใจที่ตลาดหุ้นไทยเป็นแชมป์ของตลาดหุ้นอาเซียน 3 ปีซ้อน ระหว่างปี 2556 ถึงปี 2558 โดยมีบริษัทจดทะเบียนใหม่นำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1
และปี 2558 มีหุ้นใหม่เสนอขายประชาชนทั่วไปจำนวนทั้งสิ้น 130,611 ล้านบาท
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดหลักทรัพย์ เพิ่งประกาศเตรียมปรับกฎเกณฑ์การรับหุ้นใหม่ เพราะมีการสำรวจบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ในรอบหลายปี ปรากฏว่า มีหลายบริษัทที่ก่อความเสียหายให้นักลงทุน เนื่องจากผลประกอบการขาดทุนหลังหุ้นเข้ามาซื้อขายได้เพียง 1 ปี
นอกจากนั้น บริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดเล็ก หรือหุ้นตัวเล็กๆ ยังพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของราคาที่หวือหวา อยู่ในข่ายการสร้างราคา
หุ้นใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับเข้ามาซื้อขายนั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ควรจะเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นได้ เพราะผลประกอบการไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่มีการจัดฉาก สร้างภาพลวง แต่งรายได้ แต่งงบการเงินให้ดูดีจนคุณสมบัติผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใหม่จำนวนไม่น้อยที่เข้าตลาดหุ้น โดยมีเป้าหมายกอบโกยความมั่งคั่งจากราคาหุ้น
การนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น ต้องมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ทำหน้าที่จัดเตรียมข้อมูล ดำเนินขั้นตอนการเข้าจดทะเบียน และวางแผนจัดฉากแต่งตัวให้ทั้งหมด
ตั้งแต่การแต่งงบการเงิน การสร้างตัวเลขรายได้ การปรับโครงสร้างบริษัทจนมีคุณสมบัติครบถ้วน การสร้างข่าวดีกระตุ้นให้นักลงทุนแห่งมาจองซื้อหุ้น รวมทั้งการวางแผนสร้างราคาเมื่อหุ้นเข้าซื้อขาย โดยมีเครือข่ายนักปั่นหุ้นร่วมในขบวนการ
บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งทำหน้าที่เป็นมือปืนรับจ้างบางแห่ง ในรอบไม่กี่ปีปั้นดินให้เป็นดาว แต่งตัวบริษัทที่กิจการร่อแร่จนดูดี และเข้าไปปล้นเงินจากนักลงทุนในตลาดหุ้นแล้วนับสิบบริษัท
หุ้นใหม่ๆ ที่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ นำไปเชิดหน้าชูตา จัดพิธีเปิดแชมเปญเลี้ยงฉลองต้อนรับกันนั้น ส่วนหนึ่งจะกลายเป็นหุ้นเน่าที่ตายคากระดาน และสร้างความเสียหายยับเยินให้นักลงทุน
ถ้าตลาดหลักทรัพย์ตระหนักถึงคุณภาพของบริษัทที่จะนำหุ้นเข้ามาระดมทุน ถ้าให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนผู้ลงทุนมากสักหน่อย คงจะไม่ฟูมฟายต่อความเป็นอันดับ 1 ในเชิงปริมาณของตลาดหุ้นไทย
แต่จะรู้สึละอายที่ปล่อยให้หุ้นเน่าๆ เข้ามาหลอกสูบเงินจากกระเป๋านักลงทุนจนไม่กล้าคุยโม้ถึงมูลค่าการขายหุ้นใหม่ ซึ่งมียอดเงินสูงสุดในตลาดหุ้นอาเซียน 3 ปีซ้อน
เพราะสถิติตัวเลขบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ดี เกิดขึ้นบนความเสียหายของนักลงทุน
การทบทวนกฎเกณฑ์การรับหุ้นใหม่ให้มีความเข้มงวดขึ้น เพื่อคัดกรองบริษัทที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กิจการที่อ่อนแอเข้ามา “ตบตา” นักลงทุนนั้นเป็นนโยบายที่ดี เพราะถ้าตลาดหลักทรัพย์ไม่รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาตั้งแต่แรก นักลงทุนจะไม่ต้องวอดวายจากหุ้นเน่า
หยุดไว้ก่อนดีไหม าคาคุยเรื่องการเป็นแชมป์มูลค่าการเสนอขายหุ้นใหม่ และหันมาเดินหน้าเร่งปรับวางหลักเกณฑ์ เร่งขับเคลื่อนมาตรการกลั่นกรองการรับหุ้นใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้หุ้นเน่าๆเ ล็ดลอดเข้ามาในตลาดหุ้นไม่ดีกว่าหรือ?
ทุกวันนี้ ทั้งตลาดหลักทรัพย์ และตลาดเอ็มเอไอ มีหุ้นเน่ามากเกินพออยู่แล้ว ถ้าปล่อยให้หลุดลอดเข้ามาอีกผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์จะไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนหุ้นเน่าๆบ างเลยหรือ
และจะไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือ เพราะปล่อยให้หุ้นเน่าเข้ามาปล้นนักลงทุน