ใครที่เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาหัวข้อการลงทุนในประเทศไทย ที่จัดโดยเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจมีคำถามเกี่ยวกับการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ เพราะวิทยากรที่ได้รับเชิญไปขึ้นเวที มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)แตกต่าง
นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดหมายว่า จีดีพีปีนี้จะโตเพียง2.5% แต่นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประเมินว่า จีดีพีจะโต3.6%
ตัวเลขจีดีพีของนางเกศรานับว่าสูง เมื่อเทียบกับตัวเลขจีดีพีที่สำนักวิจัยเศรษฐกิจทั่วไปคาดหมาย โดยแบงก์ชาติประเมินว่า จีดีพีปีนี้โตประมาณ3.5% สภาพัฒน์ประเมินอยู่ระหว่าง3%_4% ขณะที่ภาคเอกชนส่วนใหญ่ประเมินโตต่ำกว่า3%
ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบว่า ระหว่างกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กับกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ใครมีความรู้เรื่องเศรษฐกิจดีกว่ากัน
แต่เป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้วว่า ธนาคารพาณิชย์มีเครื่องไม้เครื่องมือในการทำนายเศรษฐกิจที่ครบเครื่องมากกว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ใกล้ชิดและเข้าถึงข้อมูลมากกว่า สัมผัสถึงความเป็นไปทางเศรษฐกิจได้ลึกกว่า
ตัวเลขประมาณการอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ มีทั้งมุมมองในเชิงบวกและลบ แล้วแต่จะเลือกอ้างอิงตัวเลขจากสำนักวิจัยแห่งใด
ขณะที่นางเกศราคงอิงประมาณการในเชิงบวก โดยอยู่ในฝ่ายกลุ่มคนมองโลกสวยและการพูดถึงการลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ ก็เลือกที่จะหยิบตัวเลขทางสถิติการลงทุนในแง่ดีมานำเสนอ ขณะที่นายญนน์ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนในความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและการลงทุน
การสรรหากรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีข้อกำหนดด้านคุณสมบัติว่า จะต้องเป็นคนที่มองโลกสวยตลอดเวลา แต่ผู้จัดการตลาดหุ้นแทบทุกคน มักเป็นคนมองโลกสวย พูดแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับการลงทุน แม้บางสถานการณ์ที่บรรยากาศการลงทุนเลวร้ายหรือตกอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างหนัก ผู้จัดการตลาดหุ้นจะยกแม่น้ำทั้ง5มาชี้นำให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน
ไม่ค่อยจะมีผู้จัดการตลาดหุ้นคนไหนออกมาเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวัง ในยามที่บรรยากาศการลงทุนผันผวน หรือมีปัจจัยใหญ่มากระทบ และมีการปั่นหุ้นจนราคาขยับขึ้นอย่างไรเหตุผลรองรับ เหมือนจะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน เพราะผู้จัดการตลาดหุ้นแต่ละคนมักมีบุคลิกคล้ายๆกัน เป็นคนมองโลกการลงทุนในแง่สวยหรู และออกไปแนวเชียร์หุ้นตลอด
แต่การมองโลกสวยเกินไป หรือมองโลกสวยเกินจริง อาจเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ ซึ่งหากนักลงทุนนำไปอ้าง
อิง จะเกิดความเสียหายรุนแรงได้อย่างตัวเลขประมาณการจีดีพีที่นางเกศราหยิบยกขึ้นมา และถ้าเป็นตัวเลขที่ไม่มีวันจะเกิดได้จริง ใครนำไปใช้อ้างอิงการลงทุน มีโอกาสซวย
แต่ประมาณการจีดีพีของนางเกศราคงไม่ทำให้ใครเสียหาย เพราะไม่เชื่อว่า ตัวเลขประมาณการที่สวยหรูจะเกิดขึ้นจริงได้ และถือเป็นประมาณการบนความเพ้อฝันมากกว่า
ลงทุนในตลาดหุ้น ต้องฟังหูไว้หู เชื่อใครง่ายไม่ได้ เพราะมีแต่คนชอบพูดสิ่งดีๆ ทั้งที่มีเรื่องร้ายๆมากมาย แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเพราะกลัวไก่ตื่น กลัวนักลงทุนหน้าใหม่จะไม่เข้ามาในตลาดหุ้น