บล.โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่ๆ หนุน บวกฝรั่งกลับลำขายหุ้นออกมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,350-1,370 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ออกมาดี ชู AOT BA AAV CPF WORK SMT LPN RICHY PTG เด่น ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น หลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย เหตุเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาด โดยให้แนวรับ 1,265/1,260 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนวต้าน 1,305/1,310 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัว ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน บวกกับประเทศจีนมีรายงานยอดการส่งออกในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ต่ำกว่าคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน
อย่างไรตาม ก็ยังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยมาจาก Fund flow ของนักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิทั้งในตลาดหุ้น และตลาด TFEX และตัวเลขการส่งออก ที่ไม่รวมทองคำยังหดตัว นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังเปิดเผยว่า สินค้าไทยถูกหลายประเทศเล่นงานทั้งในเรื่องตอบโต้การทุ่มตลาด เซฟการ์ด ทำให้ต้นทุนส่งออกพุ่งขึ้น และสูญเสียศักยภาพการแข่งขัน
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือ วันที่ 11 พ.ค.59 มีกำหนดประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2559 ซึ่งคาดการณ์ว่า ที่ประชุมฯ น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมที่ 1.5% และวันที่ 16 พ.ค.59 เป็นวันสุดท้ายในการส่งงบการเงินไตรมาส 1/2559 ของบริษัทจดทะเบียน
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยว่ามีน้ำหนักเชิงลบ เนื่องจากกระแส Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็นฝั่ง Net Sell ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. ราว 1 พันล้านบาท หลังจากค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาระดับที่ค่อนข้างสูงราว 20.5 เท่า ดังนั้น คาดว่า SET ในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีแรงซื้อดักผลประกอบไตรมาส 1/2559 ช่วยพยุงดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัว จึงประเมินว่า SET จะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,350-1,370 จุด โดยแนะนำรอซื้อเล่นรีบาวนด์ช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก แนะนำหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/59 เติบโต ได้แก่ AOT BA AAV CPF WORK SMT LPN RICHY และ PTG
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลง 5 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือคิดเป็น 0.39% ปิดที่ระดับ 1,287 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยราคาทองมีการพักตัวกรอบแคบในช่วงต้นสัปดาห์ หลังราคาทองปรับขึ้นมาแรงในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า และการพักตัวเกิดจากแรงขายทำกำไร รวมถึงแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรค่าเงิน รวมถึงการที่ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนสหรัฐฯ เผยตัวเลขดัชนีภาคบริการมีการขยายตัวมากกว่าคาดในเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายของสัปดาห์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเมษายน ปรับเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน บ่งบอกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวดี ซึ่งได้จุดกระแสการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลก ด้านเทคนิคราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นหลังทดสอบแนวรับเส้น 10 วัน และขึ้นมายืนเส้น 5 วันได้อีกครั้ง ด้วยการสร้างแท่งเทียนสัญญาณบวก สอดคล้องต่อการเกิดแนวขึ้นช่วงแขน BULLISH FLAG รวมถึงค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น โดยมีแนวรับ 1,265-1,260 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนวต้าน 1,305-1,310 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์