GBS ประเมิน SET รอบนี้ยังมีลุ้นขึ้นทดสอบ 1,420-1,430 จุด โดยมีแรงหนุนจากเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย และรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้น ศก. แต่ยังมีความเสี่ยงถูกหั่นเป้าจีดีพี และความเชื่อมั่นภาคเอกชน
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
รวมทั้งยังรับอานิสงส์จากมติ ครม.ที่ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย.59 ในการรับประทานอาหารนอกบ้าน วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท รวมทั้งต่ออายุมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่สามารถหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อไปอีก 1 ปี จนถึง 31 ธ.ค.59 นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ซึ่งพร้อมจะเปิดประมูลภายใน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยลบที่มีแนวโน้มกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่พอสมควร เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 59 ลงจากเดิมที่ระดับ 3.1% สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.59 หดตัว 1.62% เนื่องจากภาคเอกชนไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย และตลาดส่งออก
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยูโรโซน รวมทั้งในช่วงเดือน เม.ย.เข้าสู่ช่วง Preview งบการเงินกลุ่มธนาคาร และวันที่ 17 เม.ย. การประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 15 ชาติ เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดปริมาณผลิต
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยมีน้ำหนักเชิงบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงปัจจัยบวกภายในประเทศที่ ครม.อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการใช้จ่าย และโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
ดังนั้น คาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,420-1,430 จุด แนะนำ Selective Buy โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยรองรับ เช่น กลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่ ครม.อนุมัติหักภาษีกินเที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้รับประโยชน์จากการมติ ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู และเลือก STA และ TRUBB เป็นหุ้นเด่น รับอานิสงส์จากราคายางพาราปรับตัวขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งล่าสุด ราคาอยู่ที่ระดับ 170 เยนต่อกิโลกรัม
ด้าน นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงแนวทางการลงทุนในทองคำว่า ราคาทองคำพักตัวลงในช่วงก่อนหน้าจากแรงกดดันข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ จากรายงานตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือน ก.พ. และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 4/2558 เป็น 1.4% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ 1.0% ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นสอดคล้องกันว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงวันที่ 26-27 เม.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ราคาทองได้ฟื้นตัวขึ้นมารอบใหม่หลัง นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด ส่งสัญญาณด้านอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์ก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งสัญญาณชัดเจนว่า คงไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบก่อนเดือนมิถุนายน ช่วยผ่อนคลายแรงกดดัน หลังช่วงก่อนหน้า เจ้าหน้าเฟดระดับสูงหลายรายได้ออกมาให้ความเห็นว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งได้กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มปรับขึ้นต่อ โดยราคาทองเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นแรงผ่านยืนแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ด้วยการสร้างแท่งเทียน Bullish หักล้างแนวลงก่อนหน้า เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่เริ่มปรับขึ้น และค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้นจะช่วยสร้างแรงหนุน ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ ซึ่งมีแนวรับ 1,205-1,200 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์