GBS คาด SET Index จะได้รับแรงหนุนจาก Window Dressing ปลายเดือน มี.ค.นี้ แต่ยังมีประเด็นเฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ยเดือน เม.ย. ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดฯ
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ปลายเดือนมีนาคมที่จะปิดงวดงบการเงินไตรมาสที่ 1/2559 และปัจจัยบวก ครม.อนุมัติโครงการบ้านประชารัฐวงเงิน 70,000 ล้านบาท ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท รวมถึงกระทรวงการคลังเตรียมชงชอปช่วยชาติหักภาษีกิน-เที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท
อย่างไรตาม ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังคงมีอยู่ เช่น ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เฟดอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมวันที่ 26-27 เมษายนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับดีขึ้น รวมถึงการเกิดเหตุระเบิดที่สนามบินซาเวนเท ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) แถลงการณ์ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อเหตุก่อการร้าย และทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีน้ำหนักเชิงบวกตามแรงซื้อกลุ่ม ICT หลังจากกลุ่ม JAS ไม่ชำระค่าสัมปทานคลื่น 4G ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมน้อยลงหลังจากไม่มีผู้ประกอบการรายที่ 4 เพิ่มเข้ามา รวมถึงแรงซื้อดักการทำ Window Dressing ไตรมาสที่ 1/2559 ในช่วงปลายเดือน มี.ค. อย่างไรก็ตาม ความกังวลเหตุวางระเบิดในเบลเยียม และราคาน้ำมันที่ปรับลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดระยะสั้น
ดังนั้น คาดว่า SET จะผันผวนขาขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,410-1,420 จุด แนะนำ Selective Buy กลุ่ม ICT แนะนำ ADVANC, INTUCH กลุ่มอสังหาฯ แนะนำ PS, LPN, SENA, HMPRO, GLOBAL ได้ประโยชน์จากโครงการบ้านประชารัฐ รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก เก็งข่าวกระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการชอปช่วยชาติ หักภาษีกิน-เที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา และ KSL BRR ได้อานิสงส์จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเนื่องจากเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ และภาวะภัยแล้ง
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลงหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน เม.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะดีดตัวกลับสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ตามเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ ส่วนการก่อเหตุการณ์วินาศกรรมที่ประเทศเบลเยียมส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากได้ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง เป็นปัจจัยกดดันทองคำแนวโน้มค่อยๆ ปรับลง
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ว่า ราคาทองคำปรับลงมาแกว่งตัวใต้เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ตัดเส้น 10 วันลงมาอีกครั้ง เป็นสัญญาณอ่อนแรง ขณะที่การเรียงตัวแท่งเทียนเริ่มสร้างแนวลงรอบใหม่บวกกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับลง ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับลงต่อแต่จะลงไม่มาก เนื่องจากกรอบการแกว่งตัวของราคายังอยู่ในช่วงของการพักตัวออกข้างซึ่งจะทำให้แรงกดดันมีไม่มาก โดยให้แนวรับ 1,195-1,200 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,245-1,250 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์