โบรกฯ มอง SET Index กลับมายืนเหนือ 1,400 จุด เป็น Sentiment บวกในทางเทคนิค ระบุค่า P/E ที่ระดับ 15 เท่า และคาดการณ์กำไร บจ.ที่ระดับ 20% ถือว่ายังพอรับได้ต่อการเทรดแถวนี้ แต่มองว่า Upside หุ้นขนาดใหญ่เริ่มจำกัด ดังนั้น ที่ระดับนี้หุ้นขนาดกลาง-เล็กน่าจะคึกคักกว่า ซึ่งต่อไปตลาดฯ น่าจะได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 มี.ค.) ถือว่าผันผวน ระหว่างวันมีแรงขายออกมาหลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้กังวล Flow ไหลออก ประกอบกับมีแรงขายกลุ่มสื่อสารหลังราคาปรับตัวขึ้นไปเร็ว แต่ช่วงท้ายดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,400 จุด เป็น Sentiment บวกในทางเทคนิค โดยตลาดฯ รับแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ และพลังงานเป็นการสลับกลุ่มเล่น
ทั้งนี้ ดัชนีฯ เมื่อขึ้นมาอยู่เหนือ 1,400 จุด ค่า P/E อยู่ที่กว่า 15 เท่า ขณะที่คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดฯ ในปีนี้เติบโตกว่า 20% ถือว่ายังพอรับได้ต่อการเทรดที่ดัชนีฯ แถวนี้ แต่มองว่า Upside ของหุ้นขนาดใหญ่เริ่มจำกัดแล้ว ดังนั้น ที่ระดับนี้หุ้นขนาดกลาง-เล็กน่าจะคึกคักกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานยังต้องขึ้นกับราคาน้ำมัน
ด้านตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ มีประเด็นจับตาเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน เม.ย.นี้หรือไม่ แต่หากไม่ปรับขึ้น ตลาดฯ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปต่อได้ อย่างไรก็ดี คงจะต้องขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วย ส่วนเหตุการณ์ระเบิดในเบลเยียมคงแค่ตกใจในช่วงสั้นเท่านั้น
“ต่อไปตลาดฯ น่าจะได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยในประเทศมากกว่า เพราะเห็นว่าจะมีโครงการรถไฟฟ้า 3-4 สายเข้า ครม.ในช่วงปลายเดือนนี้ และก็ยังจะมีมาตรการชอปช่วยชาติอีก ซึ่งก็น่าจะเป็น Positive ให้แก่ตลาดได้”
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะผันผวน โดยคาดว่าดัชนีฯ จะแกว่งในกรอบได้ทั้งแดนบวก-ลบ แนะจับตาหุ้นกลุ่มสื่อสาร หากมีแรงซื้อเพิ่มก็จะเป็นแรงเสริมให้แก่ตลาดฯ ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,394 จุด ส่วนแนวต้าน 1,413-1,430 จุด