xs
xsm
sm
md
lg

หนังสือหุ้นที่ “นักลงทุน” ควรอ่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แม้ปัจจุบัน จะมีหนังสือการลงทุนต่างประเทศทั้งไทย และต่างประเทศจำนวนมาก แต่หนังสือการลงทุนที่ได้ชื่อว่าเป็นระดับ “ตำนาน” รวมถึงหนังสือรุ่นใหม่ที่นักลงทุนควรต้องอ่านมีเพียงไม่กี่เล่ม เราลองไปดูกันว่ามีเล่มไหนบ้างที่เราควรไปเดินหาตามร้านหนังสือมาประดับสมอง

The Essay Of Waren Buffett ผู้ที่เป็นนักลงทุนแนววีไอ ย่อมจะได้อ่านหนังสือของวอเรน บัฟเฟตต์ อย่างแน่นอน (เพราะมีเป็นสิบๆ เล่ม) แต่เชื่อหรือไม่ว่า บัฟเฟตต์ ไม่เคยเขียนหนังสือด้วยตัวเอง!! ผู้เขียนส่วนใหญ่จะเป็น แมรี่ บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นสะใภ้ แต่จะมีอยู่เพียงแค่เล่มเดียวที่บัฟเฟตต์ เป็นผู้เขียนด้วยตัวเอง (อาจจะไม่ได้เคาะแป้นพิมพ์เอง แต่อย่างน้อยก็มาจากสมองแกจริงๆ) นั่นคือ The Essay Of Waren Buffett ซึ่งเป็นการรวบรวมจากหนังสือรายงานประจำปีของเบิร์กไชร์ ฮาธะเวย์ ที่บัฟเฟตต์ ถ่ายทอดมุมมองต่อสิ่งที่เขาตัดสินใจในปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นหมวดๆ เช่น การซื้อกิจการ การประเมินมูลค่าหุ้น เรื่องบัญชี และภาษี การลงทุนในหุ้นสามัญ แม้แต่เรื่องของธรรมภิบาล ฯลฯ ใครได้อ่านถือว่าได้อ่านคมความคิดของปู่บัฟเฟตต์ จริงๆ

One Up on Wall Street ของ ปีเตอร์ ลินช์ เล่มนี้ถือเป็นหนังสือระดับตำนานเล่มหนึ่งที่ ลินช์ ได้ถ่ายทอดแนวคิดการลงทุนทั้งหมดของเขาจากการที่ได้บริหารกองทุนฟิเดลลิตี้ แมกเจนแลน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนชนะภาพรวมตลาดหุ้นได้ทุกปีต่อเนื่อง จุดเด่นของเล่มนี้คือ การแบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภท คือ หุ้นโตช้า, หุ้นแข็งแกร่ง, หุ้นโตเร็ว, หุ้นวัฏจักร, หุ้นฟื้นตัว, หุ้นทรัพย์สินมาก เมื่อรู้จักคาแร็กเตอร์ของหุ้นแต่ละประเภทแล้วจะนำไปสู่วิธีการเลือกหุ้นลงทุนที่ต่างออกไป นอกจากนี้ ยังเขียนถึงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดหุ้น รวมถึงการจัดการพอร์ตฟอร์ลิโอ

สไตล์การลงทุนของ ปีเตอร์ ลินช์ จะเป็นแนวของผู้จัดการกองทุนที่ใช้ปัจจัยพื้นฐานในการวิเคราะห์เป็นหลัก และมักใช้เหตุผลง่ายๆ เชิงคุณภาพในการประเมินการลงทุน เช่น หุ้นที่ดีคือ หุ้นที่ลูกค้าเฝ้ารอที่จะได้ซื้อสินค้ารุ่นใหม่ หรือบริษัทที่ดีคือ กิจการที่ไม่หวือหวา นอกจากนี้ ลินช์ ยังมีจุดแข็งในการวิเคราะห์หุ้นเทิร์นอะราวนด์ เป็นพิเศษ นักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานทุกคนไม่ควรพลาด เพราะวิธีคิดต่างๆ ไม่ถือว่าล้าสมัยแต่อย่างใด
นเรศ เหล่าพรรณราย
Trade Like a Stock Market Wizard ผู้เขียนคือ มาร์ค มิเนอร์วินี ผู้เป็นถึงแชมป์เทรดหุ้นสหรัฐอเมริกา ในเล่มได้เขียนถึงสไตล์การลงทุนส่วนตัวที่ใช้ทั้งปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางเทคนิคในการคัดเลือกหุ้นลงทุน หลักการสำคัญของเขาจะต้องเล่นหุ้นที่กำลังเป็นขาขึ้นเท่านั้น และเป็นหุ้นที่แข็งกว่าตลาด นอกจากนี้ ยังแฝงด้วยไมนด์เซตของการเป็นนักลงทุนตลอดทั้งเล่ม จุดแข็งของเล่มนี้คือ ค่อนข้างตามยุคสมัยเพราะเพิ่งเขียนขึ้นมาในช่วง 2-3 ปีหลังเท่านั้น นักลงทุนที่เทรดทั้งปัจจัยพื้นฐาน และเทคนิคไม่ควรพลาด

Can SLIM โดยวิลเลี่ยม โอนีลล์ เป็นหนังสือการลงทุนที่มาแรงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเน้นเนื้อหาที่แบ่งวิธีการคัดกรองหุ้นที่จะลงทุนออกเป็น 7 ข้อ ตามตัวย่อหนังสือ (หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นหนังสือสอนการลดน้ำหนักด้วยซ้ำ) ซึ่งหลักเกณฑ์ทั้งหมดจะมีทั้งวิเคราะห์โดยปัจจัยพื้นฐาน เช่น หาบริษัทที่มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี หรือสินค้าใหม่ ไปจนถึงการนำเอาอัตราส่วนทางการเงินมาวิเคราะห์ จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ เนื้อหาที่ทันยุคสมัยเช่นกัน และให้แง่มุมของตลาดหุ้นที่เรามักมองไม่ถึง เช่น วิธีคิดของผู้ถือหุ้นใหญ่

นี่เป็นหนังสือการลงทุนที่นักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานควรต้องอ่าน ตอนหน้าเรามาดูกันว่าหนังสือหุ้นที่ “เทรดเดอร์” ต้องอ่านมีอะไรบ้าง

นเรศ เหล่าพรรณราย

ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง


กำลังโหลดความคิดเห็น