xs
xsm
sm
md
lg

คาดทิศทาง ศก.โลกยังมีแนวโน้มชะลอตัว และทิศทาง ดบ.ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล แนะนำปรับพอร์ตลงทุนสอดคล้องต่อภาพรวมการเติบโตของ ศก.โลกในปี 59 ที่มีแนวโน้มชะลอตัว และรองรับทิศทาง ดบ.ในระดับต่ำ ขณะที่ความกังวลต่อการชะลอตัวของ ศก.โลกส่งให้เฟดมีมุมมองผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น และคาดว่าจะปรับขึ้น ดบ.ไม่เกิน 1-2 ครั้งในปีนี้ และคาดว่าน่าจะชะลอไปปรับ ดบ.ช่วงปลายปี ขณะที่ภูมิภาคยุโรป และญี่ปุ่นยังคงกระตุ้น ศก.ผ่านคิวอีเพิ่มเติม รวมถึงอัตรา ดบ.ไทยที่ยังมีแนวโน้มคงที่อยู่ในระดับ 1.50% ต่อปี และคาดว่าจะทรงตัวอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด แนะนำปรับพอร์ตลงทุนสอดคล้องต่อภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2559 ที่มีแนวโน้มชะลอตัว และรองรับทิศทางดอกเบี้ยในระดับต่ำ ให้เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำแบบสม่ำเสมอ มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ย โดยที่ไม่มีความผันผวนมากเกินไป

“ทางเรามองว่า ธีม Selection is the Key กลยุทธ์การเน้นเลือกตราสารลงทุนรายตัว หนึ่งในสามธีมการลงทุนหลักที่ทางเราแนะนำในปีนี้ยังคงสอดคล้องต่อภาวะการลงทุนในปัจจุบัน ทีมการลงทุนของซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ใช้กลยุทธ์ “เลือกลงทุนรายตัว” ในการบริหารจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อการสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอจากการคัดเลือกเลือกตราสารลงทุนที่เหมาะสม โดยในส่วนของตราสารหนี้ แนะนำเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารไม่เกิน 2-3 ปี เพื่อระมัดระวังไม่ให้เงินลงทุนมีความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป และสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือรีต ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงกลุ่มโรงแรม และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยให้เน้นเลือกลงทุนในกลุ่มห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และคลังสินค้า ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัญญาเช่าระยะยาว จึงมีรายได้ค่าเช่ามั่นคง ควรเลือกโครงการที่มีอัตราการเช่าเกือบเต็ม และเป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง”

นายวิน กล่าวว่า บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดตัว “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม CIMB-Principal Strategic Income Fund (CIMB-PRINCIPAL SIF)” มูลค่ากองทุน 3,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 11-18 พฤษภาคม 2559 โดยการใช้กลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน ในระยะแรกจะผสมผสานการลงทุนใน “ตราสารหนี้” ที่มีความมั่นคง กับ “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือรีต” คุณภาพดี และมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการพอร์ตที่สร้างรายได้ประจำที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้แต่มีความผันผวนต่ำ โดยผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่ปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม และมีกระจายการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ในตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอินฟราสตรักเจอร์ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs ในขณะเดียวกัน มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นคุณภาพมีการเติบโต และจ่ายเงินปันผลสูง

“ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมุมมองผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกิน 1-2 ครั้งในปีนี้ และคาดว่าน่าจะชะลอไปปรับดอกเบี้ยช่วงปลายปี ในขณะที่ภูมิภาคยุโรป และญี่ปุ่นยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน QE เพิ่มเติม รวมถึงอัตราดอกเบี้ยไทยที่ยังมีแนวโน้มคงที่อยู่ในระดับ 1.50% ต่อปี และคาดว่าจะทรงตัวอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งส่งผลทำให้ความต้องการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ REITs ของนักลงทุนสถาบันมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ในขณะที่มีความผันผวนโดยรวมค่อนข้างต่ำ หากเทียบอัตราเงินปันผล (ต่อปี) ของแต่ละสินทรัพย์จะพบว่า อัตราเงินปันผลของ REITs สิงคโปร์อยู่ประมาณ 6.4% กองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทยอยู่ที่ 6.1% หุ้นไทย 3.6% พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี 2.6% และเงินฝากประจำ 1 ปี 1.5%”

“กองทุน CIMB-PRINCIPAL SIF เน้นการแสวงหาอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าในแต่ละจังหวะการลงทุน แต่ยังคงให้ความสำคัญในการสร้างพอร์ตแบบ Income Return ทีมผู้จัดการกองทุนจะมีการประเมินปรับน้ำหนักสัดส่วนการลงทุนอยู่อย่างต่อเนื่องให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว ควบคู่การบริหารจัดการความเสี่ยงในการลงทุน อีกจุดเด่นของกองทุน คือ กลยุทธ์การขายทำกำไรในตราสารที่ลงทุน และเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้เพื่อเป็นการล็อกผลตอบแทนให้แก่กองทุน”

นายวิน กล่าวว่า “ภายใต้ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้การลงทุนมีปัจจัยความไม่แน่นอน เราเชื่อว่า กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม (CIMB-PRINCIPAL SIF) เป็นกองทุนสำเร็จรูปที่เราใช้ทีมผู้จัดการกองทุนทั้ง 3 ทีมทำงานร่วมกัน คือ ทีมตราสารหนี้ ทีมลงทุนต่างประเทศ และทีมหุ้น ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุนของกองทุนนี้ เน้นเทคนิคเลือกหลักทรัพย์ลงทุนรายตัวจะสามารถทำให้พอร์ตการลงทุนสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ สามารถสร้าง Income Return ที่เหมาะสมให้แก่ท่านนักลงทุนได้”

กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม CIMB-Principal Strategic Income Fund (CIMB-PRINCIPAL SIF) มูลค่ากองทุน 3,000 ล้านบาท นโยบายการลงทุนกองทุนจะลงทุนใน หรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ/หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่นทั้งในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์แต่ละประเภทในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบริษัทจัดการ ตามความเหมาะสมของสภาวการณ์ในแต่ละขณะ นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ และ/หรือที่เสนอขายในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม (CIMB-PRINCIPAL SIF) เปิดเสนอขายครั้งแรก 11-18 พฤษภาคม 2559 สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น