บิ๊กบอส CIMB ชี้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว เหตุกลุ่มผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากหนี้สินครัวเรือนสูง และพืชผลการเกษตรตกต่ำ กดดันสินเชื่อลดลง ดัน NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนโบรกฯ แนะหุ้นไทยฟื้นตัวชั่วคราวจากการผ่อนคลายความกังวลในตลาดหุ้นโลก แนะนำนักลงทุนระวัง ชี้ระยะยาวยังไม่มีความแน่นอน
นายสุภัค ศิวรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การขยายตัวของสินเชื่อในไตรมาส 1 ปีนี้ ไม่ค่อยขยายตัว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น สินเชื่อขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องต่อการส่งออกถูกผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัวลง ขณะเดียวกัน สินเชื่อเอสเอ็มอี และรายย่อยทรงตัว ทำให้ภาพรวมสินเชื่อไตรมาสแรกของทั้งระบบโตประมาณร้อยละ 3-5 ลดลงจากปกติ
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL มีแนวโน้มขยับขึ้นจากประมาณร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 3.4-3.5 แต่ยังไม่ใช่ระดับที่น่ากังวล โดยยอมรับห่วงผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกรที่มีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้สูง เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาวะเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเม็ดเงินจากการลงทุนโครงสร้างจะกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จะเริ่มเห็นผล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในขณะนี้สืบเนื่องมาจากมีนักลงทุนต่างชาติมีความผ่อนคลายต่อความกังวลของตลาดหุ้นต่างๆ จึงทำให้ SET Index มีการดีดตัวกลับขึ้นมา แต่ในระยะยาวยังคงไม่มีความแน่นอน เนื่องจากยังมีความกังวลในการลงทุนจากปัจจัยลบต่างๆ อยู่ เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ถือเป็นระยะสั้นๆ เท่านั้น ขอให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน ขณะที่แนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว นักลงทุนต่างประเทศมองว่า การลงทุนในประเทศไทยยังมีความน่าสนใจอยู่อย่างมาก แม้ว่าบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกจะยังมีอยู่แต่อาจจะไม่มากนัก ทำให้ผลการดำเนินงานออกมาไม่ดี แต่มองว่าบริษัทเหล่านั้นมีศักยภาพในการเชื่อมโยงไปสู่การลงทุนในกลุ่มประเทศเออีซีในอนาคต
ขณะเดียวกัน ในบางกลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น การท่องเที่ยว โรงแรม งานบริการ และการขนส่งยังสามารถได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามา และนโยบายด้านการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตของรัฐบาล เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในหลายเส้นทางที่เชื่อมโยงโครงข่ายเมือง และเส้นทางถนนขยายต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ อีกมากมายที่รองรับการขยายตัว และการลงทุน
“ระยะสั้น แนะนำนักลงทุนระมัดระวังด้านการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแนวโน้มการลงทุนจะขึ้นมาก็ตาม และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่อเศรษฐกิจการลงทุนในประเทศจีน และในกลุ่มประเทศยุโรป”