SPCG โชว์ผลประกอบการปี 58 โกยรายได้ 5 พันล. กำไรกระฉูด 30% กว่า 2.5 พันล. พร้อมกวาดขายหุ้นกู้ 1.25 หมื่นล. ปลดล็อกหนี้เงินกู้หมดสิ้น 36 โครงการ แจกปันผลผู้ถือหุ้นกระเป๋าตุง หุ้นละ 1.25 บาท กว่า 748 ล. ลั่นปี 59 บุกญี่ปุ่นเต็มตัว หลังได้พันธมิตรลุยโซลาร์ฟาร์มโครงการแรก 30 เมกะวัตต์ มั่นใจปี 60 เริ่มจ่ายไฟได้พร้อมโกยรายได้เพิ่ม
นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการใหญ่ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหาร บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 โดย ได้แถลงถึงผลการดำเนินงาน ประจำปี 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 15% ที่มีรายได้รวมประมาณ 4,357 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิรวมประมาณ 2,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 30% ที่มีกำไรสุทธิรวมประมาณ 1,890 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการออก และเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่สถาบันการเงิน และผู้ลงทุนรายใหญ่ จำนวนเงินทั้งสิ้น 12,500 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทสามารถปลดล็อกเงื่อนไขทางการเงินต่างๆ ที่มีต่อสถาบันการเงินเพื่อให้บริษัทย่อยนำเงินดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เงินกู้แก่สถาบันการเงินลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงปลดภาระจำนองที่ดิน และเครื่องจักรทั้งหมดของโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 โครงการ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ บริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบถึงนโยบายจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน ประจำปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท และได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลดำเนินงานสำหรับรอบระยะเวลาตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 30 ก.ย.2558 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.44 บาท คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายในงวดนี้ในอัตราหุ้นละ 0.81 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 748,431,900 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2559 และจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในวันจันทร์ที่ 16 พ.ค.นี้
ส่วนแผนลงทุนในปี 2559 ทางบริษัทฯ มีแผนทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น เพราะเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างชัดเจน ทั้งจากการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น และการส่งเสริมการลงทุนทางด้านนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ ประกอบกับ SPCG มีความพร้อมสำหรับการลงทุนในตลาดนี้ ทั้งด้านพันธมิตร ทีมงาน และบุคลากรต่างๆ จึงสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ทันที โดยระยะแรกจะสร้างโซลาร์ฟาร์มขนาด 30 เมกะวัตต์
ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มพัฒนาโครงการในพื้นที่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟไดเซน โครงการเมกะโซลาร์ 30 เมกะวัตต์แห่งนี้ จะใช้เวลาพัฒนาโครงการประมาณ 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ราวต้นปี 2560