xs
xsm
sm
md
lg

เอสพีซีจี เดินหน้าพลังงานทดแทน IFC หนุนทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เอสพีซีจี เผยประสบความสำเร็จโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรก ด้วยแรงหนุน Clean Investment Fund ลดต้นทุนทางการเงิน ขณะรัฐมีนโนบายกำหนดให้ปี 2030 ใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นเมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 6 พันเมกะวัตต์ ช่วยลดปล่อยคาร์บอนกว่า 2 แสนตันต่อปี สนองนโยบายลดมลพิษโลกร้อน

นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวในงาน Asian Investment Conference 2016 และร่วมเสวนาหัวข้อ “Climate change and Asia - what investors need to know” ที่ฮ่องกง ว่า ประเทศไทยมีนโยบายที่กำหนดให้ปี 2030 มีอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดกว่า 20,000 เมกะวัตต์ และกำหนดให้มีการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไม่น้อยกว่า 6,000 เมกะวัตต์

โดยทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างหันมาลงทุน และส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่ง SPCG ได้ลงทุนพัฒนาโซลาร์ฟาร์มกว่า 260 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น 36 โครงการ กระจายอยู่ใน 10 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยเงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท สามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนกว่า 210,000 ตัน CO2 ต่อปี

ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนของ International Finance Corporation (IFC) ในฐานะสมาชิกของธนาคารโลก มีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้โครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของ SPCG ประสบความสำเร็จ ด้วยการสนับสนุนด้านเงินลงทุน และเงินกู้โครงการ Clean Investment Fund (CTF) โดยการนำมาผสมผสานกับเงินกู้ของสถาบันการเงินเพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงิน


กำลังโหลดความคิดเห็น