EPG ลุย AEC เต็มสูบรุกตลาดในเวียดนาม รองรับการลงทุนด้านก่อสร้าง พร้อมเล็งตั้งโรงงานที่อินโดฯ หลังทำตลาดมากว่า 30 ปี พร้อมสั่งทีมตลาดลงพื้นที่ขยายธุรกิจแพกเกจจิ้ง EPP เสริมความแข็งแกร่งในเกาหลีใต้ คาดเป้าหมายส่งออกสินค้าแตะ 70% ภายในปี 2560-2561
นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป หรือ EPG กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะรุกตลาดเออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเต็มรูปแบบ ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่มสินค้าเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศเออีซีเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองเพียงจีน และอินเดียเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะรุกตลาดฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ในกลุ่มประเทศ AEC โดยจะเน้นที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีแนวโน้มการลงทุนในการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งกรุงฮานอย และโฮจิมินห์ ซิตี ส่วนประเทศอินโดนีเซีย บริษัทฯ ได้ทำตลาดมานานกว่า 30 ปี โดยมีการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งโรงงานผลิตในอนาคต นอกจากนี้ ในประเทศฟิลิปปินส์ มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดีอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา AEROFLEX ได้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในกลุ่มประเทศ AEC ให้เพิ่มขึ้น 20% ในปี 2559-2560
ขณะที่ธุรกิจผลิต และจำหน่ายชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS บริษัทจะเข้าไปรุกตลาดรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในฐานะกลไกสำคัญที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย EPG จะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม AEROKLAS เช่น Bed liner และ Canopy จัดจำหน่าย โดยล่าสุด AEROKLAS Malaysia Burhad บริษัทย่อยซึ่ง AEROKLAS ถือหุ้นอยู่ 70% ได้เริ่มมีการผลิตเพื่อส่งมอบให้แก่โรงงานประกอบรถกระบะในกัวลาลัมเปอร์ และได้วางแผนให้บริษัทนี้สามารถส่งของไปยังตะวันออกกลางได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ EPP ได้ส่งทีมการตลาดไปขยายธุรกิจแพกเกจจิ้งอื่นๆ ในประเทศเกาหลีใต้ให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เริ่มมีการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดยมีคำสั่งซื้อจากเชนกาแฟหลายแห่ง เนื่องจากตลาดมีความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยระบบเลเซอร์ และออฟเซตระดับ 8 สีพลัส ซึ่งมีความสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาด
“EPG จะให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ และการส่งออกสินค้าประมาณ 70% ในปี 2560-2561 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 62% โดยตลาดอาเซียนเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการขนส่งที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่สินค้า EPG ในทุกผลิตภัณฑ์จะสามารถเข้าบุกตลาด และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในอาเซียนที่มีอยู่กว่า 600 ล้านคน โดยที่ผ่านมา EPG มียอดขายจากประเทศในกลุ่มอาเซียนคิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งหมด แต่หลังจากการเข้าบุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 10%”
ส่วนผลประกอบการในช่วงไตรมาสสุดท้ายสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2559 คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากทุกกลุ่มสินค้ามีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าการเติบโตในปีนี้ (เม.ย.58-มี.ค.59) จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 25-30% หรือประมาณ 8,700-9,000 ล้านบาท และจะยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง